
วันที่ 14 พ.ค.66 ที่จังหวัดนคร พนม บรรยากาศการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นไปด้วยความคึกคักของประชาชนที่เดินทางมาใช้สิทธิในหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ กันอย่างต่อเนื่อง โดยที่หน่วยเลือกตั้งที่ 20 เขตเลือกตั้งที่ 2 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง ซึ่งสถานที่เลือกตั้งอยู่ที่วัดโพธิ์ศรี ได้เกิดเหตุ การณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ด้วยในหน่วยนี้มีบ้านเลขที่ 1 จำนวน 2 หลัง แต่จะอยู่กันคนละซอย ทำให้ผู้ที่มาใช้สิทธิเกิดความเข้าใจผิดหลังมาตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่หน้าหน่วย ด้วยเห็นว่าบ้านเลขที่ 1 ไม่มีชื่อของตัวเอง แต่กลายเป็นชื่อของคนอื่นอีก 4 รายชื่อ ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าบ้านเลขที่ของตัวเองโดนคนอื่นมาสวมสิทธิ จึงได้เดินทางมาสอบถามกับนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และ นายสมพล พงษ์พิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนัก งานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ที่กำลังตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งที่บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองนครพนม
โดยเมื่อรับทราบปัญหาดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรม การการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ได้มีการสอบถามรายละเอียดทั้งหมดที่เกิดขึ้น พร้อมกับขอดูบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อนำหมายเลข 13 หลักมาตรวจสอบผ่านระบบออนไลน์สำนักบริหารการทะเบียน ของกรมการปกครอง ทำให้ทราบว่านายเชิดชายมีสิทธิอยู่ที่วัดโพธิ์ศรี ในลำดับที่ 122 ตรงตามที่มีหนังสือแจ้งไปที่บ้าน จึงได้มีการประสานไปยังหน่วยเลือกตั้งอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบอีกครั้งว่าเหตุใดจึงไม่มีรายชื่อ ทำให้ทราบว่าในหน่วยเลือกตั้งดังกล่าว มีบ้านเลขที่ 1 จำนวน 2 หลัง ในเอกสารรายชื่อที่ติดประกาศ โดยบ้านเลขที่ 1 หลังแรกจะอยู่ที่ซอยศรีเชียงใหม่ มีรายชื่อผู้มีสิทธิ 4 ราย ส่วนบ้านเลขที่ 1 ของนายเชิดชายผู้ร้องเรียนอยู่ที่ซอยพิพิจพจนา และมีเพียงรายชื่อเดียวตรงตามที่เจ้าตัวแจ้ง จึงได้ชี้แจงทำความเข้าใจเพื่อให้ได้กลับไปใช้สิทธิตามปกติ และในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้มีการสั่งการกำชับไปยังคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยในการให้บริการประชาชน ขอให้ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดให้ดี ให้มีความรอบคอบถี่ถ้วน เช่นรายนี้ แม้จะมีการสอบถามรายละเอียดผู้มาใช้สิทธิแล้ว แต่ไม่ได้ขอดูบัตรประจำตัวประชาชนในขั้นตอนของการตรวจรายชื่อเนื่องจากเข้าใจว่าน่าจะมีบ้านเลขที่ 1 แค่หลังเดียวในหน่วยเลือกตั้งจึงทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนกัน จนผู้มาใช้สิทธิเกิดความตกใจ เข้าใจผิดคิดว่ามีการสวมสิทธิเกิดขึ้นทั้งที่ในความเป็นจริงไม่ใช่ ส่วนการติดตามเยี่ยมตามหน่วยเลือกตั้งอื่น ๆ ยังไม่พบมีประเด็นร้องเรียนเข้ามาแต่อย่างใด
เวลา 12.30 น. ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 10 หมู่ที่11 ตำบลไชยบุรี อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ศาลาเอนกประสงค์ของหมู่บ้าน ขณะที่ชาวบ้านต่างกำลังมาใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียงเพื่อเลือกตั้ง สส.เขตและ สส.บัญชีรายชื่ออยู่ ต่างพากันให้ความสนใจและมีชีวิตชีวามากขึ้น เมื่อมี”เงาะป่า”ตัวเป็นๆ อ้างว่าเดินทางออกมาจากป่าเพื่อแสดงตนในฐานะที่เป็นคนไทย มาเข้าคูหาเพื่อเลือกตั้งด้วยเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามจึงทราบภายหลัง ชื่อนายบุญโฮม เจริญใจ อายุ 44ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 11 ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ประ กอบอาชีพเผาถ่านอยู่ในพื้นที่ในทุ่งในไร่ นานๆจะกลับมาบ้านสักครั้งหนึ่ง อีกทั้งเป็นคนที่รักชอบความเป็นอยู่อย่างธรรมชาติ จึงมีความสุขอย่าง “เงาะป่า” ส่วนผิวพรรณที่ดำคล้ำมานั้นก็มาจากถ่านที่ถ่านเผามานั้นเอง ส่วนที่เดินทางเข้าหมู่บ้านมาในครั้งนี้ ก็เพราะตนทราบข่าวว่าจะมีการที่ให้ประชาชนมาลงคะแนนเสียงเพื่อเลือกตั้งผู้แทนราษฎรเข้าสู่สภาฯทั้งคนทั้งพรรค ในวันนี้รู้สึกภูมิใจและดีใจหลังจากรอมาร่วม 8 ปี เพื่อจะได้ใช้สิทธิของตนในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง
จากการสอบถามนายบุญโฮมฯ ว่า การแต่งกายลักษณะเหมือน “เงาะป่า”ในนิยาย นายบุญโฮม กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า ปกติเป็นชอบสีแดงอยู่แล้ว เมื่อมาประกอบอาชีพเผาถ่านทำให้เนื้อตัวมอม แมมอยู่เวลา ก็เลยเอาผงถ่านมาทาเนื้อทาตัวให้ดำไปทั้งตัวเลย.
Discussion about this post