หนุ่มขี่จยย.กลับบ้านหลังเลิกงานถูกรถตู้ชนขับข้ามเลนตัดหน้า หักหลบพุ่งชนรถอีกคัน เจ็บสาหัส !!

เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 ศูนย์วิทยุแจ้งเหตุหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา ได้รับแจ้งเหตุรถจักร ยานยนต์ชนกับรถยนต์อเนก ประสงค์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดที่บริเวณถนนสายศรีราชา – หนองยายบู่ หมู่ 1 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จึงประสานรถพยาบาลกู้ชีพ “ลั่น ทม” โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา พร้อมกับ พันตำรวจโทสุธี จันทนา รองผู้กำกับสอบสวน สภ.ศรีราชา เข้าร่วมตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะอเนกประสงค์ยี่ห้อ ford everest สีขาว ที่มี นายกฤษณพงษ์ อายุ 33 ปี เป็นผู้ขับขี่ จอดขวางถนนหันหน้าย้อนเลนเพื่อเตรียมข้ามถนน แล้วพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีดำ ล้มคว่ำอยู่ข้างรถยนต์กระบะในสภาพด้านหน้าได้รับความเสียหาย โช๊คงอ ล้อหน้าบิดเบี้ยว

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ทราบชื่อคือนายธนพงษ์ อายุ 19 ปี นอนร้องครวญครางในสภาพขาขวามีอาการทางกระดูกผิดรูปอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้ามีรอยถลอก ปากแตก เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันปฐมพยา บาลเบื้องต้นก่อนร่วมกับรถพยาบาลกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาลให้แพทย์รักษาอย่างเร่งด่วน

จากการสอบถาม นายนิวัฒนฺ์ อายุ 19 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์เปิดเผยว่า ตนเองนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามได้เห็นรถตู้จอดอยู่หน้าหมู่ บ้านกำลังจะเตรียมข้ามฝั่ง ในจังหวะที่รถตู้กำลังขับข้ามถนน โดยมีรถยนต์กระบะกำลังจะเตรียมข้ามพร้อมรถตู้ แต่ในจังหวะนั้นมีรถจักรยานยนต์ขี่มาทางตรงพอดี รถจักรยานยนต์จึงหักหลบซ้าย เฉี่ยวท้ายรถตู้ไปนิดเดียว จึงมาชนกับรถยนต์กระบะที่กำลังจะตามรถตู้ข้ามถนนพอดี จึงชนที่บริเวณซุ้มล้อด้านหลังจึงทำให้คนขี่รถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ด้าน นายกฤษณพงษ์ อายุ 33 ปี คนขับรถกระบะเปิดเผยว่าตนเองกำลังจะขับรถข้ามถนนโดยเห็นรถตู้ขับข้ามแล้ว จึงอาศัยรถตู้บังเลนข้ามต่อรถตู้ไปจังหวะนั้นก็ได้ยินเสียงรถชนที่บริเวณท้ายรถของตนเอง จึงลงมาดูและเห็นว่ามีรถจักรยานชนรถจึงลงมาช่วยเหลือโดยไม่ทราบว่ารถจักร ยานยนต์มาอย่างไร แต่พอไปดูกล้องจากวงจรปิดจึงรู้ว่ารถจักร ยานยนต์หักรถตู้แล้วมาชนรถตนเองทำให้ผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมบันทึกภาพและสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ ก่อนจะเชิญตัวผู้ที่ขับขี่รถยนต์กระบะไปให้การเพิ่มเติมที่ สภ.ศรีราชา ส่วนรถจักร ยานยนต์ได้มอบหมายให้รถยกนำไปเก็บรักษาไว้ในเบื้องต้นก่อน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บก็ต้องรอให้แพทย์ทำการรักษาให้การดีขึ้นเสียก่อน จึงเรียกมาสอบสวนและดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป.