วันที่ 21 พ.ค.66 ที่บริเวณทุ่งนาบ้านดอนยานาง อ.เมือง จ.นคร พนม นายจเร รุ่นฐานิช รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีบวงสรวง วางศิลาฤกษ์ สถานีรถไฟรางคู่นคร พนม โดยมีนายประสงค์ สุวิวัฒนชัย กรรมการ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัตชั่น พร้อมชาวบ้านดอนยานาง ร่วมงาน โดยมีพราหมณ์ปู่สุนทร จาก อ.ชัยบา ดาล จ.ลพบุรี เป็นผู้ทำพิธี นิมนต์พระภิกษุ 9 รูป จากวัดมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครพนม ร่วมทำพิธีฯ
การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้สร้างทางรถไฟทางคู่จากชุมทางจิระ นครราชสีมา – บัวใหญ่ – นคร พนม การก่อสร้างสถานีรถไฟ ที่บริเวณบ้านดอนยานาง ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม เป็นช่วงสัญญาที่ 2 ระหว่างหนองพอก- สะพานมิตรภาพ 3 จ.นครพนม ดำเนินการโดย กิจการร่วมค้า ยูนิค ประกอบด้วย บริษัท ยูนิคเอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) บริษัท พี.ซีอีที จำกัด บริษัท ไทยพี ค่อนและอุตสาหกรรม จำกัด และบริษัท วัชรขจร จำกัด เป็นผู้รับจ้างก่อ สร้างโครงการ ก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อย เอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม สัญญาที่ 2 ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ 3 วงเงินทั้งสิ้นกว่า 28,000 ล้านบาท
โดยงานประกอบด้วยงานก่อสร้างทางรถไฟระดับพื้นดินและทางรถไฟยกระดับ รวมระยะทางประ มาณ 175 กม. มีสถานี 9 สถานีและรวมถึงงานระบบอาณัติสัญ ญาณและโทรคมนาคม และงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างรถไฟสายใหม่ 2 เส้นทางทั้งสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียง ของ และสายบ้านไผ่-มหาสารคาม -ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ถือเป็นเส้นทางสำคัญที่ช่วยพัฒนาศักยภาพระบบการขนส่งทางรางของประเทศโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้สามารถรองรับการขยายตัวของการค้าชายแดนและผ่านแดน ตลอดจนเชื่อมโยงกับพื้นที่เศรษฐกิจอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขงที่กำลังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในยุทธ ศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย
ในขณะเดียวกัน มีผู้ที่ได้ผลกระทบต่อโครงการ ได้ร้องเรียนถึงมูลค่าเวนคืนที่ดิน เป็นราคาที่ไม่สมเหตุสมผลต่อการสูญเสียพื้นที่เศรษฐกิจ และอาคารที่อยู่อาศัยเดิมมากอยู่สมควร ซึ่งบางพื้นที่ถูกโครงการเวนคืนที่ดินพาดผ่านสิ่งปลูกสร้าง โรงงานและบ้านพักอาศัยถึงแม้บางแห่งจะไม่ถูกเวน คืนทั้งหมด แต่ก็ไม่สามารถคงสภาพเพื่อดำเนินธุรกิจหรือพักอาศัยต่อไปได้ และบางรายถูกเวนคืนพื้นที่ต้องสูญเสียสถานประกอบการรีสอร์ตแทบทั้งหมด อย่างไรก็ตามยังมีช่องทางให้ประชาชนอุทธรณ์ เพื่อหาข้อยุติต่อปัญหาดังกล่าวนี้ได้
ดร.สุภชา ศิริวงศ์ยิ่งเจริญ ผู้จัด การโครงการรถไฟรางคู่ กล่าวว่า ในวันนี้ได้มีพิธีบวงสรวงสถานีรถไฟทางคู่ สร้างจากร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร นครพนม ระยะทาง 180 กม. เพื่อแสดงความเคารพดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ มีความยินดีที่ได้มาสร้างประโยชน์ และได้รับความร่วมมือจากประชา ชนในพื้นที่ มีการเริ่มสร้างสำนัก งานสนาม สถานีรถไฟ สะพานข้ามคลอง โครงการสิ้นสุดประ มาณ พ.ศ.2572 ได้รับความร่วมมือจากเจ้าของที่ เริ่มจาก อ.หนอง พอก จ.ร้อยเอ็ด สิ้นสุดที่สะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 3 (นคร พนม – คำม่วน) ในการจ่ายค่าที่เวนคืนกำลังเริ่มทยอยจ่าย งบประมาณประมาณ 80 กว่าล้าน เครื่องจักรทยอยเข้ามาในพื้นที่ อุปสรรคในการก่อสร้าง ลักษณะน้ำในกรณีที่มีฝนตก มีการเบี่ยงทางน้ำไม่ให้มีการกระทบกับประชาชนในพื้นที่.
Discussion about this post