โรงรับจำนำเทศบาลเมืองสองพี่ น้อง ลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระผู้ปกครองมีเงินหมุนเวียนสภาพคล่องช่วงเปิดภาคเรียน
วันที่ 23 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชุติพนธ์ ฉั่วภากร รองนายกเทศมนตรีเมืองสองพี่น้อง รักษาราชการแทนนายกเทศมน ตรีเมืองสองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี พร้อมด้วย นายสัญ ญา บุญศิริ รองนายกเทศมนตรี น.ส.จิราภรณ์ อ่อนสำอางค์ ปลัดเทศบาลเมืองสองพี่น้อง นำคณะผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจความเรียบ ร้อยของ สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองสองพี่น้อง ในการเตรียมความพร้อมด้านบริการลูกค้าประ ชาชนที่มาใช้บริการจำนวนมาก ในช่วงเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 พร้อมชี้แจงนโยบายด้านการบริหารจัดการรับจำนำ และให้คำปรึกษาหารือเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ เพื่อดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.25 ต่อเดือน เพื่อเป็นการช่วยเหลือคนยากจน ให้ไม่ต้องไปกู้ยืมเงินจากเอกชนซึ่งเสียดอกเบี้ยในอัตราสูง โดยมี น.ส.เบญจมาศ คำหอม ผู้จัดการ สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองสองพี่น้อง เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างของสถานธนานุบาลเทศ บาลเมืองสองพี่น้อง ร่วมให้การต้อนรับ
นายชุติพนธ์ ฉั่วภากร กล่าวว่า สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองสองพี่น้อง หรือโรงจำนำของเทศบาลเมืองสองพี่น้อง ถือเป็นอีกหนึ่งหน่วยงานของเทศบาลเมืองสองพี่น้อง ที่มีความน่าเชื่อถือ มีความสำคัญใกล้ชิด เพื่อให้ความช่วยเหลือกับประชาชน และช่วยเหลือแบ่งเบาภาระผู้ปกครองมีเงินหมุนเวียน ในสภาพคล่องช่วงเปิดภาคเรียน หรือในช่วงเวลาที่ชาวบ้านเดือดร้อนขัดสนมีทุกข์ร้อนเรื่องปากท้องได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาเปิดภาคเรียนของนักเรียน นัก ศึกษา เพื่อให้การดูแลชาวบ้าน และประชาชนในเขตพื้นที่เทศ บาลเมืองสองพี่น้อง และพื้นที่ใกล้เคียงที่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่ายชุดเครื่องแบบนักเรียน นักศึกษา และค่าอุปกรณ์การเรียนต่างๆ จึงได้นำคณะลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อย ในการจัดเก็บทรัพย์สินของประชาชนที่ได้นำมาฝาก หรือนำมาจำนำไว้ พร้อมติด ตามความคืบหน้าการให้บริการประชาชน ในช่วงเปิดภาคเรียน ด้านความพร้อมสามารถให้การช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนได้เป็นอย่างดี
นายสัญญา บุญศิริ รองนายกเทศมนตรี กล่าวว่า ในช่วงนี้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ มีประชาชนเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น 30% ถึง 40% ทั้งนี้แสดงให้เห็นสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองสองพี่น้อง เป็นที่ความไว้ใจของชาวบ้าน และประ ชาชนยามทุกข์ร้อน โดยเฉพาะในช่วงเปิดเทอม บรรดาพ่อแม่ผู้ปก ครองต้องแบกรับภาระหน้าที่ เรื่องค่าชุดเครื่องแบบนักเรียน และค่าอุปกรณ์การเรียนของบุตรหลาน และค่าใช้จ่ายต่างๆ เพิ่มมากขึ้น โรงรับจำนำเทศบาลเมืองสองพี่ น้อง จึงเป็นที่พึ่งหวังพึ่งในเรื่องการเงิน จึงลงพื้นที่มอบหมายให้สถานธนานุบาลฯ จัดเตรียมความพร้อมในการสำรองเงินไว้ให้เพียงพอต่อความต้องการของประชา ชน และการคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ลดลง เพื่อการช่วยเหลือ แบ่งเบาภาระประชาชนยามทุกข์ร้อน
น.ส.เบญจมาศ คำหอม ผู้จัดการ สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองสองพี่น้อง กล่าวว่า สำหรับชาวบ้านประชาชนผู้ที่นำทรัพย์สินมาจำนำ กำหนดระยะเวลา 2 เดือน ระหว่างวันที่ 1 มิ.ย.-วันที่ 31 ก.ค. 66 โดยเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ต่อเดือน เงินต้นเกินกว่า 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน สำหรับผู้มาใช้บริการตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม-วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ใช้อัตราดอกเบี้ย เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.5 ต่อเดือน เงินต้นเกินกว่า 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน จึงถือว่าสถานธนานุบาล เป็นมิตรแท้ยามยากที่สามารถช่วยเหลือผู้ปกครองให้ผ่านช่วงวิกฤติไปได้อีกทางหนึ่ง
“เนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2503 ให้กระทรวงมหาดไทยรับเรื่องการจัดตั้งสถานธนานุเคราะห์ โรงรับจำนำ หรือสถานธนานุบาล ในต่างจังหวัดไปดำเนินการ เพื่อเป็นการช่วยเหลือคนยากจน จะได้ไม่ต้องไปกู้ยืมเงินจากภาคเอกชน ซึ่งเสียดอกเบี้ยในอัตราสูง เนื่องในวันที่ระลึกการก่อตั้งสถานธนานุบาล 63 ปี แห่งการช่วยเหลือประ ชาชน เทศบาลเมืองสองพี่น้อง จึงได้ร่วมกับสถานธนานุบาล หรือโรงรับจำนำเทศบาลเมืองสองพี่ น้อง จัดกิจกรรมคืนกำไรให้ลูกค้า เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระ และบรรเทาความเดือดร้อนค่าครองชีพให้กับลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ปกครองนักเรียนที่ในช่วงเปิดภาคเรียน โดยแจกกล่องข้าวถนอมอาหารให้กับประชาชน และลูกค้าที่มาใช้บริการอีกด้วย” น.ส.เบญ จมาศ กล่าว.
Discussion about this post