
จากกรณีเมื่อ วันที่ 29 พ.ค. 66 เวลา 14.00 น.บริเวณถนนบางบัว ทอง-สุพรรณบุรี จากกรณีที่ก่อนหน้านี้มีผู้ใช้ Tik Tok โพสเกี่ยวกับสติกเกอร์รูปต่างๆที่ติดอยู่บริเวณหน้ารถบรรทุกว่าเป็น”ส่วยสติกเกอร์” หากตำรวจพบเห็นไม่จำเป็นต้องเก็บเงินรถคันนี้ เพราะมีการจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ไปแล้ว ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากในโลกโซเชี่ยล ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปสอบถามกับคนขับรถบรรทุกเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
ล่าสุดวันที่ 31 พ.ค.66 เวลา 13.00 น.ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวกับ นายสุรสีห์ ศรีอินทร์สุทธ์ ประธานหอการ ค้าจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า เรียนพี่น้องสื่อมวลชนชาวนนทบุรีที่เคารพ อดีตกำนัน นายสุรสีห์ ศรีอินทร์สุทธ์ เป็นกำนันผู้ใหญ่บ้านมา 34 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานหอการค้าจังหวัดนนทบุรี คำว่าส่วย พูดกันมานานโดยตลอดในรอบ20-30ปี ที่ผ่านมา มาปัจจุบันนี้เป็นข่าวครึกโครม ใน2-3 วันที่ผ่านมา เนื่องจากมีส่วยสติ๊ก เกอร์ออกแพร่ภาพมา โดยการรับร้องเรียนจาก ว่าที่ ส.ส.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.กรุงเทพมหานครฯ พรรคก้าวไกล ทำให้ทุกจังหวัดเป็นข่าว จะเป็นด้านตำรวจก็ดี ขนส่งก็ดี ทางหลวงก็ดี ตื่นตัวกันเต็มที่ ตนอยากจะบอกว่านนทบุรีมีส่วยไหม ตนต้องบอกทำความเข้าใจกับพี่น้องสื่อมวล ชนก่อนว่าธุระกิจรถบรรทุก 10 ล้อ ซึ่งรถบรรทุกสินค้าหลายประเภท เลยต้องทำความเข้าใจกันว่าส่วยรถบรรทุกมีไหมก็มี นนทบุรีมีไม่มาก เพราะว่านนทบุรีเป็นเมืองที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ที่ดินอะไรก็แล้วแต่โครงสร้างพื้นฐานมากมาย แต่ถูกจำกัดด้วยด่านช่างของกรมทางหลวง ยกตัวอย่างง่ายๆ ถนน 346 บางเลน-ปทุม ก็มีด่านช่างสกัดแล้ว 1 ด่าน ซึ่งรถบรรทุกไม่สามารถจะวิ่งเกินได้ ไม่สามารถจะต้องจ่ายส่วยให้กับใคร ส่วนถนนเส้น บางบัวทอง-สุพรรณบุรีก็มีอีก 1 ด่าน เขต อ.ลาดบัวหลวง รถบรรทุกหนักที่จะมาจากสุพรรณบุรี ก็มีด่านช่าง และถ้าจะบรรทุกของหนักไปสุพรรณก็มีลูกข่ายด่านช่างอีกเลยโรงเบียร์ไฮดิเก้นไปนิดหน่อยรถหนักก็ไม่สามารถจะวิ่งผ่านได้ มีลูกข่ายตาช่างอีก บางบัวทอง สุพรรณบุรี จะวิ่งกลับไปนครปฐมก็มีลูกข่ายตาช่างอีก ซึ่งลูกข่ายกรมทางวางไว้หมดแล้วไม่สามารถจะตีองจ่ายส่วย และอีกเส้น บางบัวทองสุพรรณ บางใหญ่ในอดีตก็มีตาช่างวางไว้อยู่แล้ว ขณะนี้มาสร้างมอเตอร์เวย์ ก็ได้ทำหารลื้อไปหมดแล้ว นนทบุรีจะน้อยมาก แต่อยากทำคว่มเข้าใจกับผู้ประกอบการ ซึ่งตนได้รับข้อมูลจากผู้ประกอบการหลายประเภท ยกตัวอย่างตนทำธุระกิจโรงสีข้าว รถบรรทุกพวกโรงสีไม่มีใครวิ่งเกินเลย ไม่ต้องไปเคลียร์ส่วยที่ไหน เพราะว่าถ้าวิ่งเกินจะไม่สามารถวิ่งเข้าโกดังได้ ผู้ประกอบการโกดังข้าวเขาก็ไม่ให้เข้าโกดัง

ยกตัวอย่างรถปูนผง แม่เมาะลำปางของตนเองก็มีเป็น 100 คัน ก็วิ่งไม่มีเกิน ก็ไม่ต้องไปจ่ายส่วยไม่ต้องติดสติ๊กเกอร์เพราะผู้ประกอบหารวิ่งตาม กฏหมายอยู่แล้ว แต่จะมีบ้างที่ผู้ประกอบการ แต่ก็ต้องเข้าใจเห็นใจผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รถบรรทุกดินก็มีบ้างที่เกิน แต่ตนไม่ทราบว่าที่ไหนเขาจ่ายส่วยกันไม่ทราบจริงๆ แต่มีวิ่งเกินบ้าง วิ่งเกินส่วนนี้ก็อยากจะทำความเข้าใจกับผู้ร้องหรือว่าที่ ส.ส. เมื่อเป็นรัฐบาลแล้วอยากจะฝากไปแก้ไขหลายหน่วยงานฝากมาว่า ควรจะแก้กฏกระทรวงให้ผู้ประกอบการรถบรรทุกดิน-ทราย น้ำหนักจาก 50ตัน พ้วง 50 ตันในอดีต เมื่อ 20-30ปี ที่ผ่านมาโครงสร้างพื้นฐานถนนยังไม่ได้มาตราฐาน ขณะนี้โครงสร้างพื้นฐานของ จ.นนทบุรี หรือ ต่างจังหวัด เป็นถนนคอนกรีดหมดแล้ว ควรจะแก้กฏกระทรวงให้ผู้ประกอบการอยู่ได้ จาก 50 ตัน เป็น 60 ตัน หรือ 65 ตัน เพราะว่าถนนโครงสร้างพื้นฐานรับได้ รถบรรทุกก็สามารถรับได้ ผู้ประกอบการก็จะได้อยู่ได้ ก็จะได้เป็นธรรมกับผู้ประกอบการที่รถบรรทุก ส่วนรถบรรทุกข้าว บรรทุกปูนซิเมน บรรทุกของพวกนี้ เขาวิ่งไม่เกินอยู่แล้ว อีกส่วนหนึ่ง โรงโม่หินเดี๋ยวนี้ก็ไม่ให้น้ำหนักเกินออกจากโรงโม่แล้ว จะเป็นประเภทหินดินทราย จะไม่มีด่านช่างพวกนี้จะมีบ้างแต่ไม่มาก ก็อยากจะฝากถึงรัฐบาลใหม่ เมื่อจะเป็นรัฐบาลแล้วควรจะแก้กฏกระทรวงให้ผู้ประกอบการวิ่งสัก 60ตัน หรือ 65 ตัน ตนเชื่อว่าป้ายส่วยจะหายไปโดยอัตโนมัติ ผู้ประกอบการทุกคนก็ไม่จำเป็นจะต้องวิ่งแบกไม่ต้องวิ่งไปเคลียร์ป้ายตามทางที่เป็นข่าว.
Discussion about this post