เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ค่ายลพบุรีราเมศวร์ ตำบลเกาะสะบ้า อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชากองพลทหารราบที่ 15 พร้อมคณะ เดินทาง ตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ ผลัดที่ 1 ปี 2566 ของหน่วยขึ้นตรงกองพลทหารราบที่ 15 จำนวน 3 หน่วยฝึก ได้แก่ 1. หน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันทหารม้าที่ 31 กองพลทหารราบที่ 15 ,2. กองพันเสนารักษ์ กรมสนับสนุน กองพลทหารราบที่ 15 และ 3.กองพันซ่อมบำรุง กรมสนับสนุน กองพลทหารราบที่ 15 เพื่อติดตามการฝึกของทหารกองประจำการ พร้อมเน้นย้ำผู้บังคับหน่วยฝึก ผู้ฝึก รวมถึงครูทหารใหม่ ให้ยึดรูปแบบการฝึกตามระเบียบจากกรมยุทธศึกษาทหารบก และมาตรการการควบคุมโรคจากกระทรวงสาธารณสุข ต้องดูแลเอาใจใส่ทหารใหม่ในทุกนาย เสมือนดูแลคนในครอบครัว เพราะทหารกองประจำการ เมื่อเข้ามาอยู่ในรั้วทหาร เปรียบเสมือนเป็นน้องคนเล็ก ของกองทัพบก พร้อมทั้งเน้นย้ำในเรื่องมาตรการป้องกันโรคลมร้อน (Heat Stroke) และ มาตร การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 โดยให้ครูฝึกต้องเป็นตัวอย่างที่ดี รวมถึงเรื่องสิทธิกำลังพลที่น้องทหารใหม่พึ่งได้ พร้อมทั้งการประชาสัม พันธ์การเข้าสู่การเป็นทหารอาชีพ หน้าที่ และความรับผิดชอบของความเป็นทหาร วินัยทหาร 9 ข้อ ตลอดจนเน้นย้ำนโยบายสั่งการของ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เพื่อนำไปยืดถือ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมทั้งเรื่องอาหารการกินที่มีคุณภาพ และปริมาณเพียงพอ อย่างเหมาะสม ที่สำคัญเน้นย้ำให้หน่วยฝึก ทุกหน่วยต้องเข้าให้การช่วยเหลือเรื่องร้องขอเร่งด่วน ในการเข้าไปดูแล และให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนของครอบครัวกำลังพลน้องทหารใหม่ที่บ้านมีฐานะยาก จน ขาดแคลนเรื่องที่อยู่อาศัย โดยสั่งการให้ประสานงานด้านการเข้าให้การช่วยเหลือกับกอง พันทหารช่างที่ 15 กองพลทหารราบที่ 15 ในการซ่อมบำรุง ตลอดจนได้มอบเครื่องบริโภค เพื่อเป็นขวัญใจ และกำลังใจ แก่น้องทหารใหม่ต่อไป
ทั้งนี้ พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชากองพลทหารราบที่ 15 กล่าวว่า “การฝึกทหารใหม่ ต้องคิดว่าน้องๆ ที่เข้ามาเป็นพลทหารกองประจำการ เข้ามาอยู่ในบ้านของเรา เปรียบเสมือนเป็นน้องคนเล็ก เรามีหน้าที่ดูแล บ่มเพาะ และปลูกฝังให้มีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบในความเป็นทหาร และสุภาพบุรุษ เปลี่ยนทัศนคติที่ดีให้เกิดขึ้นในจิตใจของน้องๆ เปลี่ยนความคิดจากการเป็นพลเรือน ให้มีจิตใจเป็นทหารอย่างเต็มภาคภูมิ รักในสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สำหรับวิธีการฝึกนั้นจะต้องอยู่บนพื้นฐานบนความถูกต้อง เป็นไปตามระเบียบการฝึก ในส่วนการลงโทษ หรือลงทัณฑ์ทำได้เฉพาะเท่าที่จำเป็น และจะต้องไม่มีการทำเกินขอบเขต หรือกลั่นแกล้งทำร้ายร่างกาย ซึ่งหากพบการกระทำผิดจะลงโทษอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ขอให้ผู้ปกครองได้มีความมั่นใจในกระบวนการฝึกของกองทัพบก ว่าจะทำให้บุตรหลานของทุกท่านเป็นผู้ที่มีศักยภ าพ เป็นบุคลากรที่ดีของกองทัพบก และประเทศชาติต่อไป.
Discussion about this post