ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 1 มิ.ย.66 พ.ต.อ.ทิวากร คงเพชร ผกก.สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง พ .ต.ท.โชติพัฒน์ รักสกุล สว.กก. สส.ภ.จว.พัทลุง พ.ต.ท.สุรศักดิ์ คชภักดี รองผกก. สภ.ป่าพะยอม พ.ต.ท.บุญทรง ผดุงธรรม สว.สส. สภ.ป่าพะยอม พ.ต.ต.จำเริญ อินแก้ว สว.กก.ตชด.11 หน.ชุดสืบ สวนคดีสำคัญสำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ป่าพะยอม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรพัทลุง เจ้าหน้าที่หน่วยปฎิบัติการพิเศษพัทลุง (ฉก.เสือดำ ) 401 นาย เข้าปิดล้อมป่าสวนเจ้าเย็น ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่ -เขาย่า ท้องที่หมู่ 9 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง เพื่อติดตามจับกุมนายวินัย อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 900 ม.1 ต.ลานขอย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายพิภพ อายุ 47 ปี 177 ม.1 ต.นางหลง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา ข้างบ้านเลขที่ 143 ม.9 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง โดยศาลจังหวัดพัทลุง ได้ออกหมายจับฐานความผิดพยามยามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติกรรม
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าผู้ต้องหาคนดังกล่าวได้หลบหนีอยู่ในป่าเขตอุทยาน บ้านสวนเจ้าเย็น พร้อมด้วยนายกฤตพจน์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 291 ม.9 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง โดยนายกฤต นั้น เป็นผู้ต้องหาหนีคดี ปล้นทรัพย์ของผู้อื่นโดยมีอาวุธปืน และใช้ยานพาหนะ มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุอันควร โดยศาลอนุมัติหมายจับ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2564 เจ้าตัวใช้ความชำนาญในพื้นที่หลบหนีเข้าป่า โดยอาศัยญาติคอยส่งเสบียงให้
ซึ่งหลังนายวินัย ได้ก่อเหตุ ก็ได้หลบหนีมาอยู่ในพื้นที่เดียวกัน อาศัยตระเวนนอนขนำในสวนยางพาราของญาติ เพื่อการหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่ได้เดินเท้าเข้าบริเวณป่า กว่า 2 ชั่วโมง เพื่อปิดล้อมก่อนทีวงแคบลงมายังขนำในสวนไม้ผล ใกล้บริเวณท้ายหมู่ บ้าน แต่จากการตรวจสอบไม่พบผู้ต้องหาทั้ง 2 แต่อย่างได เจ้าหน้าที่พบเพียงรอยเท้าที่เป็นรอยวิ่งเข้าไปในป่า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เร่งติดตามตรวจสอบแต่ไม่พบตัวแต่อย่างได้
ซึ่งทางด้าน พ.ต.อ.ทิวากร คงเพชร ผกก. สภ.ป่าพะยอม คาดว่า ในช่วงจังหวะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมานั้น เป็นจุดที่ต้นไม้ยางพาราล้มขวางถนนรถไม่สามารถส่งเจ้าหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ เลยต้องเดินเท้า เป็นช่วงจังหวะ ที่มีคนเห็นและขับรถจักรยานยนต์ เร่งเครื่องเข้าไปบริเวณใกล้ขนำแล้วส่งสัญญานให้ ทำให้ ทั้ง 2 ไหวตัวทันหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง ซึ่งบริเวณสวนเจ้าเย็นเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ ที่ผู้ก่อเหตุมักใช้พื้นที่ดังกล่าวหลบหนีคดี เนื่องจากเส้นทางเข้าออกมีทางเดียว ที่ล้อมรอบไปด้วยป่าเขา ทำให้ยากต่อการติดตาม เมื่อมีชาวบ้านรู้ว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าก็มีการส่งสัญญานให้ ทำให้ต้องคว้าน้ำเหลวดังกล่าว
Discussion about this post