นี้เป็นช่วงเวลาแห่งความตื้นตันใจ เมื่อแม่เฒ่าอายุ 74 ปี ได้โผกอดลูกชายที่พรากจากกันมา 37 ปีเต็ม หลังนายอำเภอบางแพ ทราบเรื่องราวของ คุณยายแย้ม จากผู้ใหญ่บ้าน จึงตั้งภารกิจสุดปาฏิหาริย์ ช่วยคุณยายแย้มตามหาลูกชายจนพบ
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังหมู่บ้านดอนจันทร์ หมู่ 4 ต.วังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี หลังได้รับรายงานว่า นายเชน หรือ พัน อารีกิจ อายุ 40 ปี ที่อยู่ ม.11 ต.หาดยาย อ.หลังสวน จ.ชุมพร ลูกชายของ นางแย้ม หรือ คุณยายแย้ม รุ่งสว่าง อายุ 74 ปี ชาวบางแพ จะเดินทางมาเจอหน้าแม่และรับแม่กลับไปอยู่ด้วยที่จ.ชุมพร หลังพลัดพรากจากกันมานานถึง 37 ปีเต็ม ด้วยความช่วยเหลือจาก นายอำเภอบางแพ และ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.วังเย็น จึงทำให้ทั้งสองได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรก
โดยเมื่อ คุณพัน ขับรถยนต์ส่วนมาพร้อมกับภรรยาและลูก 2 คน จากจ.ชุมพร นานกว่า 8 ชม. เมื่อมาถึงได้ลงจากรถและได้รีบเดินเข้าไปหาแม่ด้วยความตื่นเต้น ซึ่งเมื่อทั้งคู่ได้เจอหน้ากันต่างโผเข้ากอดกันร้องไห้ด้วยความดีใจและตื้นตันใจ ก่อนที่คุณพันพร้อมภรรยาและลูกจะก้มลงกราบที่เท้าของคุณยายแย้มผู้เป็นแม่ ทำให้คุณยายแย้มสวมกอดลูกชายร้องไห้ด้วยความคิดถึง ท่ามกลางความดีใจของฝ่ายปกครองต.บางแพ และเหล่าอสม.ในพื้นที่ หลังนายอำเภอบางแพทราบเรื่องและตั้งเป็นภารกิจสุดปาฏิหาริย์ ช่วยคุณยายแย้มตามหาลูกชาย จนมีการประสานงานทำให้ทั้งสองได้พบหน้ากัน
คุณพัน เล่าว่า ตนเองพลัดพรากจากคุณแม่ตั้งแต่เมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าคุณแม่เป็นใครหน้าตาเป็นอย่างไร จนเมื่อมาเจอคุณแม่จนทราบว่า คุณพ่อได้อุ้มตนออกจากบ้านไปตั้งแต่อายุ 3 ขวบ จนมารู้อีกทีก็อยู่กับพ่อบุญธรรมที่จ.ชุมพรแล้ว เพราะพอพ่อเสียพ่อบุญธรรมก็รับตนเป็นลูกตั้งแต่เด็ก ตนพยายามถามพ่อบุญธรรมว่าแม่ของตนคือใครและอยู่ที่ไหน แต่พ่อบุญธรรมก็ไม่รู้จักและไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน ซึ่งตนได้พยายามสืบหาอยู่ แต่ก็ไม่พบและคิดว่าคุณแม่เสียชีวิตไปแล้ว
จนล่าสุดได้มีโทรศัพท์จากนายอำเภอบางแพ และผู้ใหญ่บ้านโทรประสานมาว่า คุณแม่ของตนตามหาอยู่ และเล่าเรื่องราวของคุณแม่ให้ตนฟัง จนตนได้นัดหมายว่าจะเดินทางมารับคุณแม่ไปอยู่ด้วยกันที่จ.ชุมพร ตนยอมรับวันนี้ตนรู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากๆ ที่ได้เจอกับคุณแม่หลังไม่ได้เจอกันมานาน ถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์มากๆ ต่อจากนี้ตนจะดูแลคุณแม่ให้ดีที่สุดเท่าชีวิตของตน และสุดท้ายตนต้องขอขอบคุณท่านนายอำเภอ, จนท.เทศบาล ผู้ใหญ่บ้าน และทีมอสม.ทุกๆคน ที่ให้การช่วยเหลือในครั้งนี้ จนทำให้ตนได้รับกับคุณแม่หลังไม่ได้เจอหน้ากับถึง 37 ปีเต็ม
ด้าน นายสายชล จันทร์เพ็ญ นายอำเภอบางแพ กล่าวว่า เมื่อตนทราบเรื่องจากผู้ใหญ่บ้าน จึงตั้งเป็นภารกิจสำคัญในการช่วยเหลือคุณยายแย้มตามหาลูกชาย เนื่องจากคุณยายแย้มมีอายุมากและมีโรคประจำตัว ซึ่งใช้ชีวิตอยู่คนเดียวอย่างลำบาก ทำให้คุณยายแย้มคิดถึงลูกชายที่พลัดพรากจากกันมาถึง 37 ปี โดยตนได้สืบจากฐานข้อมูลจากทะเบียนราษฏร์ จนได้เบอร์โทรติดต่อและประสานงานจนให้คุณยายแย้มได้พบกับลูกชาย ซึ่งที่ผ่านมาทางอำเภอบางแพยังไม่เคยเจอเคสแบบนี้ ถือว่าเป็นเคสแรก และถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ที่ทำให้ทั้งคู่ได้พบเจอกัน
ตนก็ขออวยพรให้คุณยายแย้มและลูกชายตลอดจนครอบครัว ได้พบเจอแต่ความสุขความเจริญ หลังพรากจากกันมานาน พร้อมตนได้ประสานให้ทางเทศบาลต.บางแพ ทำเรื่องการรับเบี้ยผู้สูงอายุและสิทธิการรักษาพยาบาลหลังคุณยายแย้มย้ายไปอยู่กับลูกที่จ.ชุมพร และตนต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่บ้าน จนท.อสม. ที่เอาใจใส่ห่วงใยลูกบ้านในพื้นที่ ซึ่งทางอำเภอบางแพ ยังมีการดำเนินการช่วยเหลือคนชราที่ยากไร้ในพื้นที่ มาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ขณะที่ นางสุทวัณ อินทเกตุ อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.วังเย็น เปิดเผยว่า ป้าแย้มเป็นผู้สูงอายุที่อยู่ในหมู่บ้าน และอยู่บ้านเพียงลำพังไม่มีใครอยู่ด้วย ส่วนสามีใหม่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาเวลาที่ตนลงพื้นที่มาเยี่ยมป้าแย้ม จะบ่นให้ตนฟังเสมอว่า “อยากตายเพราะคิดถึงลูกชายที่พรากจากกันไป 37 ปี และอยากเจอหน้าลูกชายก่อนตาย” ตนจึงถามเรื่องราวจนทราบว่า ป้าแย้ม เคยมีลูกกับสามีเก่า 2 คน จนสามีและลูกสาวคนโตประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต แต่สามีมีอาการสติไม่ค่อยดี และอุ้มลูกชายวัย 3 ขวบหนีออกจากบ้านไป
ซึ่งป้าแย้มไม่รู้หนังสือจึงไม่รู้จะตามหาลูกชายยังไง ได้แต่ถามไถ่คนในหมู่บ้านเท่านั้น โดยป้าแย้มมีอาการเหมือนโรคซึมเศร้า ทำให้เธอและทางอสม.ต้องเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะกลัวป้าแย้มจะคิดสั้น จึงนำเรื่องราวของป้าแย้มไปขอความช่วยเหลือจากนายอำเภอ ให้ช่วยค้นหาลูกชายของป้าแย้มให้ ซึ่งได้รับการประสานงานและช่วยเหลือภายใน 1 อาทิตย์ สามารถติดต่อลูกชายของป้าแย้มได้ จนลูกชายได้มีการนัดหมายกับเธอว่าจะมารับแม่ไปอยู่ด้วยในวันนี้
สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี
Discussion about this post