พิตบูล 4 ตัวถูกทิ้ง หิวโซสุดทนไหว ขย้ำกินกันเองตาย 1 รอหน่วยงานช่วยเหลือ !!

จากกรณีมีผู้ใช้แอพพลิเคชั่นติ๊กต็อกโพสต์ระบุว่า “รับเเจ้งจากประชาชนให้เข้ามาช่วยเหลือนำซากสุนัขที่ถูกกัดตายเป็นสยพันธุ์พิตบูล 4 ตัว ถูกกัดตายไป 1 ตัว จภายในหมู่บ้าน เนื่องจากเจ้าของบ้านเดิมย้ายบ้านหนีไปอยู่ที่อื่น และไม่ได้นำสุนัขไปด้วย จึงทำให้สุนัขเครียดและเกิดความหิวโหยกัดพวกเดียวกันตายไป 1 ตัว

ต่อมา เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 10 มิถุนายน 66 จากการลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวพบว่า สุนัขพันธุ์ พิต บูลที่เหลืออยู่อีก 3 ตัวในบ้านหลังดังกล่าวถูกทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือนำสุนัขทั้ง 3 ตัว และนำซากสุนัขที่ตายจอีก 1 ตัว ออกจากบ้านหลังดังกล่าวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สอบถามเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้บ้านที่เลี้ยงสุนัข เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้บ้านหลังดังกล่าวมีสามีภรรยาคู่หนึ่งมาขอเช่าพักอาศัยอยู่กัน 2 คน โดยทั้งสองคนนำเอาสุนัขมาเลี้ยง 4 ตัว แต่ต่อมาทั้งคู่เกิดมีปัญหาปากเสียงกัน ทำให้ต่างฝ่ายต่างขนของแยกย้ายหายหน้ากันไป และทิ้งสุนัข 4 ตัวไว้ในบ้าน โดยจะแวะกลับมาดูบ้านดูสุนัขเป็นพักๆ แต่มาในระยะหลังจะทิ้งช่วงไปนานมากขึ้น จนกระ ทั่งบ้านถูกตัดน้ำตัดไฟ ทำให้สุนัขทั้ง 4 ตัวไม่มีน้ำและอาหารกิน เดือดร้อนชาวบ้านที่ต้องช่วยเอาอาหารและน้ำมาให้กิน แต่ก็ไม่ได้ค่อยเอามาให้บ่อย เพราะเจ้าของบ้านสั่งห้ามไว้ว่าห้ามไม่ให้ใครเอาอะไรมาให้สุนัขทั้ง 4 ตัวกิน ชาวบ้านเลยไม่ค่อยกล้า เพราะกลัวจะมีปัญหาแต่ด้วยความที่สุนัขเกิดความหิว เลยไล่ขย้ำกัดกินกันเองจนตายไป 1 ตัว เเต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยนำซากสุนัขที่ถูกขย้ำออกมา เพราะสุนัขพันธุ์ดังกล่าวเป็นพันธุ์ที่ดุร้าย เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยและเกิดอันตรายได้ จึงประสานไปทางผู้ใหญ่บ้านให้มาช่วยนำร่างสุนัขที่ตายออกไปก่อนจะเน่าเหม็น ทางผู้ใหญ่บ้านจึงประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยว ข้อง จนสุดท้ายเจ้าหน้าที่เข้าไปนำสุนัขที่เหลือทั้ง 3 ตัวและสุนัขอีก 1 ตัวที่ตายออกมาได้สำเร็จ สภาพของสุนัขแต่ละตัวผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งก่อนหน้านี้ทางผู้ใหญ่บ้านได้ประสานไปยังเจ้าของสุนัขมาแล้ว และเจ้าของสุนัขรับปากว่าจะเข้ามารับผิดชอบสุนัขทั้ง 4 ตัว แต่สุดท้ายก็เงียบหายไป จนกระ ทั่งสุนัขเกิดหิวโซไล่ขย้ำกัดกินกันจนตายเป็นที่น่าเวทนา หลังจากที่เจ้าของบ้านปล่อยทิ้งให้สุนัขอยู่กันเองตามลำพังโดยไม่มาเหลียวแลนั้น ได้ส่งเสียงเห่าหอนรบกวนเพื่อนบ้านจนไม่เป็นอันหลับนอนเป็นประจำ อีกทั้งกลิ่นอุจจาระก็ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งกระจายไปทั่ว แต่ไม่มีใครเข้าไปทำอะไรได้ เพราะประตูบ้านล็อก จึงต้องให้ทางผู้ใหญ่บ้านเข้าไปดำเนินการแทน

ป้าอี๊ด อายุ 56 ปี เพื่อนข้างบ้าน กล่าวว่า สุนัขอยู่สภาพนี้ตั้งแต่พฤษภาคมปี 65 สภาพสุนัขผอมเหลือแต่กระดูก ซี่โครงขึ้นหมด สุนัขมี 4 ตัว ตายไป 1 ตัว ตนนี้อยู่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ก่อนหน้านี้ไม่มีใครเข้ามาดูแล หน่วยงานก็ไม่มีมาดูแล เพิ่งจะมีชาวบ้านไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านตอนที่มีสุนัขกัดกันตายไป 1 ตัว ตนไม่ทราบว่าสุนัขตัวไหนที่ติดเชื้อสุนัขบ้า เมื่อก่อนเจ้าของบ้านเข้ามาอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเข้ามาดูแลเลย ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลและทำความสะอาดบ้านให้เนื่องจากมีกลิ่นเหม็นและตนได้รับความเดือดร้อน

นายสุพจน์ ทองอำนาจ กำนันตำบลบางบัวทอง กล่าวว่า ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนสุนัขเห่ามีเสียงดัง เจ้าของสุนัขจะเข้ามาให้อาหารทุก 2-3 วัน หรือ 4-5 วัน สุนัขคงหิวจึงกัดกันเอง ตนทราบข่าวจากผู้ใหญ่บ้านว่าสุนัขเคยหลุดออกมาและชาวบ้านกลัว จึงได้ร้องเรียนไปเพื่อขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ แต่ไม่ได้รับการตอบรับเพื่อจะนำไปดูแล ทางผู้ใหญ่บ้านจึงได้ประสานไปยังเจ้าของบ้านนัดแล้วนัดอีกก็ไม่มารับ จึงได้ทำการแยกสุนัขออกมาเพื่อลดความรำคาญจากชาวบ้าน ลงทุนทำกรงและมาดูแลที่ข้างป่า แต่ประสานกับทางเจ้าของสุนัขเรื่อยๆ นัดว่าเจ้าของจะเข้ามารับภายในเย็นนี้ ซึ่งก็ไม่ชัวร์ว่าจะเข้ามารับจริงหรือไม่ ถ้าไมมารับก็ต้องให้หน่วยงานมารับช่วงต่อ เพราะสุนัขต้องกินอาหารเยอะ ทางอำเภอรับทราบแล้วและได้ติดประกาศเพื่อให้นำสุนัขออกมา

นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ว่าที่ส.ส.พรรคก้าวไกล เขต 7 จังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า จากที่ตนลงจุดเกิดเหตุได้พบหนังสือของกรมปศุสัตว์แปะประกาศไว้หน้าบ้าน ว่าพฤติการณ์ของบ้านนี้มีการเลี้ยงสุนัขที่ผิดกฎหมาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจริงๆในพื้นที่คือเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทองที่มีกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมอยู่ ต้องเข้ามาดูแล และจะมีการประสานทางเทศบาลให้รับทราบ ตอนนี้สุนัขต้องมีที่อยู่ใหม่ เนื่อง จากตอนแรกมีสุนัขทั้งหมด 4 ตัว และกัดกันตายไป 1 ตัว เหลือ 3 ตัว อยู่ในกรงเดียวกันซึ่งอันตราย ถ้ากัดกันตายอีกจะเป็นยังไง จึงรีบประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดบูรณาการว่าจะทำยังไงกับสุนัข 3 ตัวนี้ ต้องจับแยกและหาที่อยู่ใหม่ คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จภายในวันจันทร์ และต้องรีบทำ ความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ทั้งเขต 7 และเขต 8 หรือทั้งจังหวัด อยากให้ทุกคนใช้กฎหมาย อำนาจหน้าที่ให้ถูกต้องถูกทาง สื่อทำดีอยู่แล้วต้องขอบคุณสื่อทุกๆสื่อด้วย ถ้าไม่มีสื่อประเทศชาติจะไม่ได้ถูกขับเคลื่อนไปมากมาย ต่อจากนี้พรรคก้าวไกลเราจะเปลี่ยนบริบทของบ้านเมืองและให้ทุกคนทราบสิทธิเสรีภาพของตนเอง ทุกคนต้องเท่าเทียม และกฎหมายต้องเท่าเทียม ต่อไปนี้คงไม่มีอะไรต้องไปร้องสื่อเรามีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกันหมด ไม่ว่าจะเป็นตัวส.ส. ว่าที่ส.ส. ผู้ใหญ่บ้าน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น อบต. เราค่อยๆปรับความรู้ของประชาชน 8 ปีที่ผ่านมาประชาชนต้องพึ่งสื่อเพราะพึ่งใครไม่ได้ จากนี้เป็นต้นไปมีก้าวไกลแล้วภาระสื่อคงน้อยลง.