
จากกรณียูทูปเบอร์ชาวออสเตรเลีย ชื่อ David Khai ได้ถ่ายทำคลิปวิดีโอบริเวณถนนเยาวราช และภายในคลิปวิดีโอดังกล่าว David Khai ได้มีการพูดคุยกับคนขับรถตุ๊กๆ ซึ่งเป็นชายวัยกลางคนและคนขับรถตุ๊กๆคันดังกล่าวได้พูดว่าตนเองเป็นคนกัมพูชา ต่อมาช่องยูทูปชื่อ”มุมมองเพื่อนบ้าน” ได้นำคลิปวิดีโอช่วงที่ David Khai พูดคุยกับคนขับรถตุ๊กๆไปลงในยูทูปและมีผู้รับชมเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการที่มีคนต่างด้าวเข้ามาลักลอบทำงานแย่งอาชีพคนไทยนั้น
ต่อมา พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.1 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา รอง ผบก.ฯ รักษาราชการแทน ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 และ พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 นำกำลังลงพื้นที่สืบสวนหาตัวชาวกัมพูชาในคลิปวิดีโอ เป็นการเร่งด่วน จนกระทั่ง พ.ต.ต.ธงไทย ไพเราะ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1 พร้อมกำลัง ได้สืบสวนจนพบชายคนขับรถตุ๊กๆ ดังกล่าว ที่บ้านพัก บริเวณถนนมังกร แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นคนไทย ชาว อ.โพนทราย จ.ร้อยเอ็ด ชื่อนายบุญศรี สุกใส อายุ 68 ปี ประกอบอาชีพขับรถตุ๊กๆ อยู่ย่านเยาวราช โดยนายบุญศรี เล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่าบรรพบุรุษตนเองเป็นชาวเขมรสุรินท์ ตนเองจึงพูดภาษาเขมรได้ ในวันดังกล่าว พบนาย David Khai เดินอยู่ริมถนน จึงได้พูดคุยชักชวนให้ใช้บริการรถตุ๊กๆ ของตนเอง ซึ่ง David Khai ได้ถามตนเป็นภาษาอังกฤษว่าเป็นคนที่ไหน ตนเองคิดว่าถ้าบอกไปว่าเป็นคนร้อยเอ็ด ชาวต่างชาติก็คงไม่รู้จัก จึงบอกไปว่ามาจากกัมพูชา เพราะตนเองก็มีเชื้อสายเขมรสุรินทร์ พูดภาษาเขมรได้ ภาษาอังกฤษก็พูดได้และมิได้มีเจตนาไม่ดีแต่อย่างใด
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ซึ่งได้มอบหมายให้ สตม. เป็นหน่วยงานหลัก ในการดำเนินการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม, พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.1 ที่ได้สั่งการให้เร่งรัดตรวจสอบคนต่างด้าวที่มีพฤติการณ์ลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย หลีกเลี่ยงไม่เสียภาษีเงิน อันเป็นการเอาเปรียบผู้ประกอบการที่ทำมาหากินโดยสุจริต รวมทั้งลักลอบจ้างคนต่างด้าวทำงานโดยฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมายในพื้นที่รับผิดชอบ.
สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม / รายงาน
Discussion about this post