
เมื่อเวลา 03.10 น.วันที่ 14 มิถุนายน 2566 นายชุติเดช มีจันทร์ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ สั่งบูรณาการกำลัง เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ 3 สาขาแพร่ , เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อย ตชด.323 กก.ตชด.32(พะเยา), เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดแพร่ ,หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.3 (ดอยหลวง)เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสอง, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. ประจำจังหวัดแพร่ ได้ร่วมกันทำการจับกุม นายกิตติศักดิ์ เกี๋ยงหนุน อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 118/3 หมู่ 3 ตำบลท่าข้าม อำมาอเมือง จังหวัดแพร่ พร้อมด้วยตรวจยึดของกลาง ไม้กระยาเลย ไม้ประดู่ จำนวน 2 ท่อน ปริมาตร 0.63 ลบ.ม. คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 22,050 บาท รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ นิสสัน สีน้ำตาล ทะเบียน บม 7577 แพร่ หมายเลขเครื่อง TD23-T107927
หมายเลขตัวรถ AHGD22-E60234
ผ้าใบสีฟ้า-ขาว จำนวน 1 ผืน ผ้าแสลนสีดำ จำนวน 1 ผืน
โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 69 ฐาน”มีไม้กระยาเลยหวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” มาตรา 70 “ผู้ใดรับไว้ด้วยประการใด ช่อนเร้น จำหน่ายหรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรูอยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ใดได้มาโดยการกระทำผิดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ มีความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น” พร้อมได้แจ้งให้ นายกิตติศักดิ์ เกี๋ยงหนุน ทราบว่าเขาต้องถูกจับตามช้อกล่าวหาข้างต้น พร้อมทั้งแจ้งสิทธิ์ของ ผู้ถูกจับให้ทราบดังนี้ ได้แจ้งให้ผู้ถูกจับกุมทราบว่าเขาต้องถูกจับกุมและได้สั่งให้เขาไปยังที่ทำการของพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ถูกจับกุมพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับกุมทราบแล้วก่อนทำการจัดทำบันทึกการจับกุมฉบับนี้
พฤติการณ์แห่งคดี เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2566 คณะเจ้าหน้าที่ฯ ได้รับแจ้งจากสายข่าว แจ้งว่าคืนนี้ จะมีการลักลอบชนไม้ผิดกฎหมายโดยใช้รถยนต์กระบะตอนเดียว ยี่ห้อ นิสสัน สีน้ำตาล ทะเบียน บม 7577 โดยขนย้ายไม้จาก อ.งาว จ.ลำปาง ขนย้ายเข้ามายังจังหวัดแพร่ โดยใช้เส้นทางสายทางหลวงหมายเลข 103 จึงขอให้คณะเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบด้วย คณะเจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันออกตรวจสอบ โดยใช้รถยนต์ส่วนบุคคลตัวของคณะเจ้าหน้าที่และรถยนต์ของทางราชการ โดยตรวจสอบตามเส้นทางหลวงหมายเลข 103 จนถึงเวลา 03.10 ของวันนี้(14 มิถุนายน 2566) คณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พบรถต้องสงสัยลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้งขับอยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข 103ด0ต โดยขับมาจากทาง อ.งาว จ.ลำปาง มุ่งหน้าเข้าสู่ อ.สอง จ.,แพร่ คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามรถคันดังกล่าว และได้ส่งสัญญานให้รถคันดังกล่าวหยุดเพื่อขอตรวจสอบ ก่อนตรวจสอบคณะเจ้าหน้าที่ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ชายคนขับรถคันดังกล่าวพอใจ (ทราบชื่อภายหลังคือ นายกิตติศักดิ์ เกี๋ยงหนุน) จนนายกิตติศักดิ์ฯ พอใจ ยินดีและยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และได้นำคณะเจ้าหน้าที่ตวจสอบ ผลการตรวจสอบรถคันดังกล่าวด้านท้ายกระบะดังกล่าว พบว่าท้ายกระบะปิดคลุมด้วยผ้าใบสีฟ้าขาว ถูกมัดด้วยเชือกอย่างมิดชิด เมื่อคณะเจ้าหน้าที่ทำการเปิดผ้าใบสีฟ้าออกพบผ้าแสถนสีดำ จำนวน 1 ผืน ปิดคลุมอีกชั้นหนึ่ง คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเปิดผ้าแสลนสีดำออก พบว่าท้ายกระบะรถคันดังกล่าวบรรทุกไม้ท่อน จำนวน 2 ท่อน คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้วปรากฎว่าเป็นชนิดไม้ประดู่ท่อน ไม้ดังกล่าวไม่มีรูปรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ภาคเอกชนตีประทับไว้ที่ส่วนต่างๆ ของไม้แต่อย่างใด และไม่มีร่องรอยที่แสดงว่าเคยผ่านการเป็นสิ่งปลูกสร้าง หรือเครื่องเรือน เครื่องใช้อื่นใดมาก่อนแต่อย่างใด คณะเจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามนายกิตติศักดิ์ฯ ถึงเอกสารการได้มาของไม้ดังกล่าว นายกิตติศักดิ์ฯ แจ้งต่อคณะเจ้าหน้าที่ว่าตนได้ซื้อไม้ดังกล่าวจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.งาว จ.ลำปาง เพื่อนำมาสร้างโต๊ะ ซึ่งไม้ตังกล่าวไม่มีเอกสารการได้มาแต่อย่างใดคณะเจ้าหน้าที่ร่วมกันพิจารณาแล้วเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวข้างต้นของนายกิตติศักดิ์ฯ เป็นการกระทำความผิดตามข้อกฎหมาย โดยมีนายสุวิทย์ ฟูคำ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.3 (ดอยหลวง) เป็นผู้รัองทุกข์กล่าวโทษ นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งมอบกับ พ.ต.ท.เสกสรรค์ ปัญญายืน ร้อยเวร สภ.สอง พนักงานสอบสวน สภ.สอง ดำเนินคดีต่อไป
ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่
Discussion about this post