
วันนี้ (15 มิ.ย.) ที่วัดพุทธาธิวาส พระอารามหลวง อ.เบตง จ.ยะลา หลังเมื่อวันที่ 27 พ.ค.66 ที่ผ่านมาได้จัดพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ เพื่อเริ่มดำเนินการบูรณะปฎิสังขรณ์ พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศโดยมีพุทธศาสนิก ชนชาวเบตงที่มีศรัทธาอันแรงกล้า เข้าร่วมพิธีบวงสรวง บูรณปฎิสังขรณ์พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ก่อนการบูรณะศาสนสถาน พระมหาธาตุเจดีย์ ที่ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา โดยมี รศ.พญ.ชนิสา โชติพานิช บุตรสาว นายสวัสดิ์ โชติพานิช อดีตประธานศาลฎีกา นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง และหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วม โดยการก่อสร้างระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม 2566 – 6 มิถุนา ยน 2566 เป็นการลอกกระเบื้องโมเสกออก เพื่อปรับพื้นผิวเจดีย์ และเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2566 ได้ทำการลอกกระเบื้องโสกบริเวณชั้น 2 เสร็จแล้ว 1 ด้าน ปัจจุบันช่างได้ทำการตั้งโครงสร้างชั่ว คราว (นั่งล้าน) เพื่อทำการลอกกระเบื้องโมเสกทั้ง 4 ด้านตามลำดับ
ประวัติพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ “พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ”เป็นพระธาตุเจดีย์แบบศรีวิชัยประยุกต์ สูง 39.90 เมตร หรือขนาดเท่าอาคาร 13 ชั้น เป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ โดยพระธาตุเจดีย์องค์ประธานจะอยู่ตรงกลาง และมีเจดีย์บริวารล้อมรอบ ได้สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สม เด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชมม์พรรษาครบ 5 รอบ ซึ่งใต้ฝ่าละ อองธุลีพระบาททรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระ ราชทานยอดพระเจดีย์ที่ตั้งอยู่ภายนอกทุกองค์ประดิษฐานด้วยฉัตรทองและทรงสายสูตรยกฉัตรยอดด้วยพระองค์เอง โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2533 เสร็จสิ้นในปี พ.ศ. 2536
สำหรับการสร้างพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศนั้น เกิดจากขึ้นการดำเนินการของอดีตประธานศาลฎีกา นายสวัสดิ์ โชติพานิช เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ รัชกาลที่9 ในวโรกาสพระชนมายุครบ 60 พรรษา โดยได้ท่านอาจารย์หม่อมราชวงศ์ มิตรารุณ เกษมศรี สถาปนิกพระราชวังศิลปินแห่งชาติสาขาสถาปัตยกรรมไทยเป็นผู้ออกแบบก่อสร้างเป็นพระมหาเจดีย์แบบศรีวิชัยประยุกต์ โดยมีเจดีย์องค์ประธาน 4 องค์อยู่ตรงกลาง รายล้อมด้วยเจดีย์บริวารและมีเจดีย์องค์เล็กขนาดเท่ากับเจดีย์องค์บริวารซึ่งเป็นเรือนธาตุซ้อนกันอยู่ภายในเจดีย์องค์ประธานสำหรับบรรจุพระสถูปพระบรมสารีริกธาตุดังที่เห็นในปัจจุบัน
สภาพปัจจุบัน พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ขณะนี้ได้ผ่านกาลเวลามามากกว่า 30 ปี และตั้งอยู่บนยอดเขาและโดยที่ภูมิประเทศของภาคใต้มีฝนตกตลอดปี ทำให้เกิดการกัดกร่อนวัสดุฉาบผิวพระมหาธาตุเจดีย์ฯ ทำให้ผิวปูนเสื่อมสภาพ หลุดร่อน และขาดความมั่นคงแข็งแรงในการยึดเกาะของแผ่นโมเสกจนเกิดการลอกร่อน สภาพความชำรุดเหล่านี้ทำให้ “พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ” ได้รับความเสียหายและลดทอนความสวยงามลง และขอเชิญร่วมบริจาคสมทบทุน โครงการบูรณะ “พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ” ผ่านระบบบริจาคอิเล็ก ทรอนิกส์ ชื่อบัญชี วัดพุทธาธิวาส พระอารามหลวง Biller ID 099 400214324692 ทำรายการผ่านช่องทาง Mobile Banking โดยการ Scan QR CODE เท่านั้น (เป็นบัญชีที่เป็นทางการสำหรับ โครง การบูรณะปฏิสังขรณ์ “พระมหา ธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ” วัดพุทธาธิวาส พระอารามหลวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ) เพียงท่านทำรายการผ่าน Mobile Banking SCAN QR CODE เท่านั้น และกดยอมรับ/ใช้สิทธิลดหย่อน/กรอกเลขบัตรประชาชน โดยทางธนาคารจะแจ้งยอดบริจาคของท่านไปยัง กรมสรรพา กรโดยตรง เพื่อใช้ลดหย่อนภาษี โดยไม่ต้องเก็บหลักฐานการบริจาคมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ ( E – donation )เป็นระบบที่กรมสรรพา กรพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการรองรับข้อมูลการรับบริจาคของ สถานศึกษา ศาสนสถานโรงพยาบาล องค์กรสาธารณกุศลและหน่วยรับบริจาคอื่น ๆ และ ขอขอบพระคุณกำลังใจและกำลังปัจจัยที่สนับ
สนุนงานบูรณะปฏิสังขรณ์“พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประ กาศ”วัดพุทธาธิวาส(พระอารามหลวง) อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ขอให้บุญกุศลในครั้งนี้ จงดลบันดาลให้ท่านและครอบครัว จงเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ พิพัฒนมงคล สมบูรณ์พูนผล เจริญรุ่งเรือง พรั่งพร้อมด้วยผองญาติและกัลยาณมิตร สุข ภาพสมบูรณ์แข็งแรง ตลอดไปเทอญ และสามารถติดตามข่าว สารได้ที่ facebook กองทุนบูรณะปฏิสังขรณ์ พระมหาธาตุเจดีย์ พระพุทธธรรมประกาศ วัดพุทธธาธิวาส Line @503kpic ชื่อไลน์ WatBhuddrathiwat.
Discussion about this post