จากกรณี เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา เรือประมงสามารถช่วยนายสิทธิพร อายุ 24 ปี ที่ลอย คออยู่กลางทะเล หลังเรือไดหมึกที่มีบุญเลิศ อายุ 65 ปี ถูกคลื่นซัดจนล่ม ร่างหายไปในทะเลพร้อมกับเรือ ยังไม่ทราบชะตากรรม เจ้าหน้าที่ระดมเรือออกค้น หาในจุดที่เรือล่ม แต่ยังไม่พบทั้งเรือและคน คาดจมลงก้นทะเล ตามที่นำเสนอไป
เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 24 มิ.ย. พ.ต.ต.กาจบัณฑิต โพธิ์ประสิทธิ์ สว.(สอบสวน) ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ชุดค้นหา ว่าพบเรือที่ล่มพร้อมกับไต๋เรือที่สูญหายแล้ว ซึ่งจมอยู่ก้นทะเลใกล้กับจุดที่จมหายไป โดยจะนำร่างผู้เสียชีวิตมาขึ้นที่บริเวณท่าเรือแหลมเจริญ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง จึงได้ประสานแพทย์เวร รพ.ระ ยอง พร้อมด้วนเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพรกุศล เดินทางไปชุดค้นหา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดค้นหาได้ขับเรือยางนำร่างผู้เสียชีวิตที่ห่ออยู่ในถุงพลาสติก เข้ามาบริเวณริมหาดแหลมเจริญ หลังจากนำศพขึ้นมาบนฝั่ง ทางบุตรชายที่รอดชีวิต ได้เจ้าไปดูพร้อมญาติ เมื่อเห็นศพนายบุญเลิศ อายุ 65 ปี ก็ถึงกับทรุดปล่อยโฮออกมา พร้อมกับญาติที่ร่ำไห้ปริ่มจะขาด ใจ เป็นที่สลดใจแก่เจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว หลังตรวจสอบไม่พบบาดแผลตามร่างกาย เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน จึงนำศพส่ง รพ.ระยอง เพื่อชันสูตร
ด้านนายอดิเรก เอกเพชร ผู้อำ นวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลระยอง ได้กล่าวว่า ทีมค้นหา ประกอบเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประ มงระยอง ทีมนักประดาน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสยามระยอง ได้ออกค้นหาตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.66 จนกระทั่งในข่วงบ่ายวันนี้ นักประดาน้ำพบเรือที่ล่ม ซึ่งจมอยู่ก้นทะเล โดยพบร่างผู้เสียชีวิตติดคาอยู่ภายในห้องบังคับเรือ หรือ เก๋งเรือตามที่ชาวประมงเรียกกัน จุดที่พบห่างจากฝั่งประมาณ 10 ไมล์ทะเล พยายามนำร่างออกมา แต่เนื่องจากศพเริ่มบวมอืด ตึงทำให้ไม่สามารถนำศพออกจากประตูเก๋งเรือได้ จึงต้องตัดประตูออก จนกระทั่งสามารถนำร่างออกมาได้ แล้วรับกู้ศพขึ้นมาแล้วเคลื่อนศพเข้ามายังฝั่งทันที
ด้านนายสิทธิพร อายุ 24 ปี บุตรชายของผู้เสียชีวิต ได้เปิดเผยถึงนาทีเรือล่มว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองกับ บิดา ที่เป็นคนขับเรือ กำลังแล่นเรือกลับเข้าฝั่ง โดยขณะนั้นคลื่นลมสงบน้ำทะเลนิ่ง แต่จู่ๆก็ได้เกิดลมแรงที่มาพร้อมกับคลื่นสูง หรือ ที่ชาวประมงเรียกว่า”ลมหัวฝน” ทางผู้เสียชีวิตได้ตะโกนให้ทิ้งสมอเรือ เพราะไม่สามารถแล่นต่อไปได้ ต้องทิ้งสมอเรือ ให้หัวเรือหันไปทางคลิ่น เพื่อโต้คลื่นป้องกันเรือล่ม ขณะที่ทิ้งสมอเรือลงไปเชือกสมอเรือยังไม่ทันตึง ได้เกิดคลื่นและลมซัดเรือจนเอียง โดนที่ตนเองอยู่ด้านนอกเก๋งเรือ จึงตะโกนให้พ่อออกมาจากเก๋งเรือ แต่ไม่ทันร่างตนเองกระเด็นตกลงไปในทะเล เห็นภาพพ่อครั้งสุดท้าย กำลังวิ่งออกมาจากเก๋งเรือ ยังไม่ทันพ้นประตูร่างพ่อถูกแรงน้ำดูดเข้าไปในเก๋งเรือ แล้วตนเองก็ถูกคลื่นซัดออกไป โชคดีที่จับฝาถังน้ำพลาสติกไว้ได้ จึงลอยคอตั้งแต่ 03.00 น. ไปจน ถึง 07.00 น.วันที่ 23 มิ.ย. ได้มีเรือประมงแล่นผ่านมา และ ช่วยขึ้นไปบนเรือ และ ยังไปวนหาพ่อ แต่ก็ไม่พบ จึงส่งตนเองขึ้นฝั่งก่อน เสียใจมากที่พ่อต้องจากไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ เตรียมวางแผน เพื่อกู้เรือที่จมอยู่ก้นทะเลขึ้นมา แต่คงต้องใข้เวลา เพราะจุดที่เรือจมมีความลึก และอยู่ห่างจากชายฝั่ง.
Discussion about this post