เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 มิ.ย. 66 นายทินภัทร ชุติมาปัญญา อายุ 35 ปี ผู้ช่วยผู้จัดการร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง พร้อมด้วยนางพัธร์ชัญญาดา จันทร์ใย อายุ 46 ปี พี่สาว เดินทางนำหลักฐานเป็นภาพวงจรปิด เข้าแจ้งความกับร.ต.อ.ถิรพัฒน์ ศิริรักษ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ว่าได้ถูกชาย อายุประมาณ 45-50 ปี แต่งกายคล้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ ใช้อาวุธปืนจ่อศีรษะข่มขู่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา ในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งภายใน ซ.ศิริชัย 2 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี
นายทินภัทร กล่าวว่า วันเกิดเหตุขณะที่ตนทำงานตามปกติอยู่ภาย ในร้าน โดยมีพนักงานทำงานอยู่ด้วยกัน 4 คน เป็นผู้จัดการซึ่งเป็นผู้หญิง 1 คน แคชเชียร์ 1 คน พนักงานส่งของ 1 คน แล้วก็ตนซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้าน ขณะที่กำลังจัดวางสินค้าอยู่บนชั้นวางสินค้าตามภาพในกล้องวงจรปิดซึ่งบันทึกภาพไว้ได้ตอนเกิดเหตุ ตนพร้อมกับผู้จัดการร้านและพนักงานส่งของกำลังทำงานกันอยู่นั้น ก็มีชายคนดังกล่าวเดินเข้ามาที่ด้านหลัง โดยแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ ก่อนจะชักอาวุธปืนออกมาจากกระเป๋าสะพายมาถือไว้ในมือหลังจากนั้นจึงชักอาวุธปืนออกมาจากซองพก ตนสังเกตุเห็นท่าไม่ดีจึงได้ลุกขึ้นเดินหนีแกล้งเอาของไปเก็บไว้ที่หลังร้าน ชายคนดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนมาจ่อกระแทกที่ด้านหลังแต่ด้วยความกลัวตนจึงไม่ได้หันไปมอง รีบเดินไปที่หลังร้าน ซึ่งชายคนดังกล่าวก็ยังเดินตามมาที่หลังร้าน ตอนนั้นตนอยู่แค่เพียงคนเดียว ก่อนจะพูดว่า “มึงอย่ามายุ่งกับเมียกู” พร้อมเอาอาวุธปืนที่ถือมาจ่อที่ใบหน้าตน ซึ่งตนก็บอกไปว่าไม่เคยยุ่งกับแฟนของพี่เลย โชคดีที่ตอนนั้นมีเพื่อนร่วมงานเดินเข้ามาที่หลังร้านพอดี ชายคนดังกล่าวจึงได้รีบเก็บอาวุธปืนแล้วเดินออกไปจากร้าน โดยก่อนจะออกจากร้านไปได้พูดกับน้องพนักงานส่งของถามว่าตนกับผู้จัดการทำงานด้วยกันบ่อยไหม ระวังมันจะโดนลูกปืน ก่อนขึ้นรถเก๋งขับหลบหนีไป หลังเกิดเรื่องตนมาทราบที่หลังว่าชายที่ก่อเหตุคือแฟนของผู้จัดการร้านที่เป็นผู้หญิง ซึ่งตนไม่เคยยุ่งเกี่ยวอะไรด้วยเลยในเรื่องชู้สาว แต่มีการทำงานด้วยกันบ่อยครั้งเพราะตนเป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้าน ซึ่งชายดังกล่าวก่อนหน้านี้ตนเคยเห็นขับรถกระบะตำรวจมารับแฟนของเขาที่ร้านประจำ หลังเกิดเหตุตนไม่กล้าแจ้งความเพราะกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากคนก่อเหตุชอบอ้างตัวว่าเป็นตำรวจทำงานให้นาย จึงได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นไปปรึกษากับพี่สาวพอพี่สาวเห็นคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้พาตนเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคนก่อเหตุให้ถึงที่สุด
นางพัธร์ชัญญาดา กล่าวว่า ตนเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของครอบครัว เพราะน้องชายทำงานเกือบ 24 ชั่วโมง ทำเป็นกะ ตนเลยพาน้องชายมาแจ้งความ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการให้ถึง ที่สุด เพราะคู่กรณีมีลักษณะคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนเลยกังวลเรื่องความไม่ยุติธรรม เกรงจะเกิดเหตุร้ายกับน้องชายในวันข้างหน้า.
Discussion about this post