เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2566 เวลาประมาณ 13.30 น. ที่ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร กลุ่มอนุรักษ์น้ำซับคำป่าหลาย กว่า 30 คน นำโดย นายอดิศักดิ์ ตุ้มอ่อน ที่ปรึกษากลุ่มฯ ได้เดินทางมาเพื่อขอให้มีมาตรการคุ้มครองนักปก ป้องสิทธิฯอย่างเร่งด่วน หลังพบมีการคุกคามจากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม
ทั้งนี้สืบเนื่องจากกลุ่มอนุรักษ์น้ำซับคำป่าหลาย ได้มีการร่วมพูดคุยกับ นายไพโรจน์ พลเพชร ที่ปรึกษาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นายสุโข สืบสุข และนายนิทิพย์ ลานุตุน เจ้าหน้าที่ กสม. ที่ลงมาพูดคุยกับนักปกป้องสิทธิฯตามหนังสือร้องเรียนที่ยื่นให้ กสม. เพื่อขอให้ประสานและหามาตรการในการคุ้มครองความปลอดภัยของนักปกป้องสิทธิฯกลุ่มอนุรักษ์น้ำซับคำป่าหลายที่อาจจะเกิดเหตุ การณ์ความไม่ปลอดภัยในขณะนี้ โดยตัวแทนนักปกป้องสิทธิฯ ได้ชี้แจงกับ กสม. ว่าพื้นที่ก่อสร้างโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานได้ทับพื้นที่พิพาท กรณีนโยบายทวงคืนผืนป่า ที่เจ้าหน้าที่ได้ทำ การตรวจยึดแบบผิดพลาดคลาดเคลื่อนทับที่ทำกินของประชาชน ที่หาอยู่หากิน และที่เลี้ยงสัตว์ ซึ่งหน่วยงานได้ทำการออกใบอนุ ญาตให้ใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงหมู แปลงที่สอง เพื่อสร้างโครงการกังหันลมฯ ได้อย่างไร ทั้งที่ไม่มีการประชาคมหมู่บ้าน มีการย้ายหลักหมุดตั้งโครงการไปมา และยังมีการทำรายงานตรวจสอบสภาพป่าที่เป็นเท็จ
ซึ่งจากการที่กลุ่มฯ ออกมาคัดค้านโครงการดังกล่าวในช่วงปลายปี 2565 ก็เริ่มมีการคุกคามเริ่มขึ้น โดยมีบุคคลได้เข้ามาพูดจาข่มขู่สมาชิกกลุ่มถึงที่บ้านพัก ต่อมาก็มีชายอ้างว่าเป็นนักข่าวท้องถิ่นฯ ได้ทำการคุกคามทางโทรศัพท์ โดยบอกว่าบริษัทฯ อยากจะขอดูแลกลุ่มแลกกับการหยุดคัดค้านโครงการฯ หลังจากนั้นก็มีผู้สมัคร สส.เขต ได้ลงพื้นที่หาเสียงได้เสนอว่าจะหาคนช่วยยกเลิกคดีที่ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้แจ้งความไว้ จากเรื่องนโยบายทวงคืนผืนป่า ซึ่งเหตุการณ์การข่มขู่คุกคามนี้เกิดขึ้นแบบวนไปเวียนมาอย่างต่อเนื่อง
นายอดิศักดิ์ ตุ้มอ่อน ที่ปรึกษากลุ่มฯ เปิดเผยว่า ในฐานะที่ปรึกษาได้เข้าให้ข้อมูลกับส่วนราชการ มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ตัวแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ตัวแทน สภ. คำป่าหลาย ตัวแทนกรมป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกมารับเรื่องที่ร้องไปเรื่องคุกคาม มีชายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ และในวันนี้ กอ.รมน.มุกดาหาร ได้ยอมรับว่าได้มีการประชุมหารือจริง แต่ไม่ทราบว่าคนที่ลงไปเป็นลูกน้อง การที่พี่น้องกลุ่มทวงคืนผืนป่า และกังหันลมใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ เราเองในฐานะปก ป้องสิทธิ์ และขบวนการเคลื่อน ไหว คิดว่าที่ทำไปถูกต้องแล้ว ต้องเอาข้อคิดเห็นข้อหารือไปปฏิบัติในวันนี้มีรูปธรรม และให้ทาง สภ.คำป่าหลาย สั่งการให้เจ้าปน้าที่มาสอดส่องทั้งกลางวันและกลางคืน ตลอด 24 ชม. เพื่อเฝ้าระวังเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป.
นางพิมพ์ใจ ปาหลา ผู้ได้รับความเดือดร้อน ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา ก็พบว่ามีชายฉกรรจ์หัวเกรียน ลักษณะคล้ายเจ้าหน้าที่ ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีบลอน์ทอง (ทะ เบียน กฉ- 3953 มุกดาหาร) ขอสงวนปิดทะเบียน ได้เข้ามาดึงเอาป้ายรณรงค์คัดค้านโครงการของพวกเราไป
ดังนั้นทางกลุ่มฯ จึงต้องการให้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ ได้ตรวจสอบการคุกคามนักปกป้องสิทธิฯ หรือการละเมิดสิทธิมนุษยชน อันสืบเนื่องที่มาจากโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานลมในพื้นที่ตำบลคำป่าหลาย และพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร เพื่อหามาตรการในการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิฯ เสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป.
อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ // มุกดาหาร
Discussion about this post