เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรับแจ้ง จาก นางพัชรี บุญล้อม อายุ 77 ปี ว่ามีผู้ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ และโดนไล่ออกกจากห้องพักเพราะค้าค่าเช่า ที่อาคารพาณิชย์ สูง3 ชั้น เลขที่ 307-309 ชั้น 3 ห้อง 302 ถ.นนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ เป็นอาคารพานิชย์ 3 ชั้น บนชั้น3 ห้อง302 พบนายชาญ เกษร อายุ 56 ปี ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ นอนอยู่กับพื้นห้อง และ น.ส.จันทรา ศิริกุล อายุ 65 ปี สองสามีภรรยา ซึ่งในห้องนอนไม่มีที่นอนไม่มีผ้าห่มไม่มีหมอนหนุนหัวต้องเอาขวดน้ำใส่น้ำหนุนหัวแทนหมอน ไม่มีทีวี มีพัดลมเครื่องเดียว น.ส.จันทรา เล่าว่า ตนและสามีได้มาเช่าห้องดังกล่าวอยู่ประมาณ 4-5 ปีได้เช่าเดือนละ 1800 บาทไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ เมื่อก่อนสามีของตนทำงานเป็นกุ๊กในร้านอาหาร และสามีของตนล้มในห้องน้ำและเป็นอัมพฤกษ ตั้งแต่วันนั้นมาผ่านมา 4-5 ปีสามีของตนเป็นคนพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ตนต้องคอยดูแลสามี ทุกวันนี้สามีของตนเป็นโรคเบาหวานและความดันเพิ่มมาอีก ส่วนตนก็ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่งทำงานรับจ้างทั่วไปใครจ้างอะไรก็ทำ วันไหนไม่มีงานก็ออกไปเก็บของเก่าขาย ซึ่งในแต่ละคืนเวลา .01..00 น.ตนจะออกจากห้องเพื่อไปเก็บของเก่าหรือขวดน้ำตามขยะมาขายเพื่อหาเงินชื้อข้าวชื้อน้ำกินแต่ละวันกับสามีซึ่งบางวันขายได้้ 50-60 บาทได้ ซึ่งทุกวันนี้ตนติดค่าเช่าห้องนานหลายเดือน เป็นจำนวนเงิน 19,877 บาท ตนไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องเลยซึ่งตนก็เกรงใรเจ้าของห้องเหมือนกันซึ่งตนก็พยายามหาเงินมาจ่ายทุกวันนี้ทางเจ้าของห้องได้ทำหนังสือส่งมาที่ตนบอกให้ย้ายข้าวของออกจากห้องเพราะติดค่าเช่าห้อง ซึ่งตนก็ไม่รู้จะทำยังไงตนได้ขอเวลากับเจ้าของห้องเป็นเวลา 7 วันแล้วตนจะย้ายออกจากห้องซึ่งตนย้ายออกไปตนก็ยังไม่มีที่พักเลยก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปอยู่ที่ไหนเพราะไม่มีเงินจะไปเช่าห้องคงต้องให้นายชาญ สามีของตน อยู่ในรถเข็นที่ตนเข็นไปเก็บของเก่าขาย ตนก็จะเข็นไปเรื่อยคำไหนนอนนั่น
ต่อมาเมื่อเวลา 21.30 น.ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่อีกครั้ง พบนายชาญ เกษร อายุ 56 ปี ป่วยเป็นอัม พฤกษ์ และ น.ส.จันทรา ศิริกุล อายุ 65 ปี สองสามีภรรยา อยู่ในห้องนั่งทานข้าวกันอยู่ น.ส.จันทรา ศิริกุล ภรรยาเล่าว่าในวันนี้ตนก็ไปเก็บขวดหรือของเก่ามาขายเพื่อซื้อข้าวกินในวันนี้ขายของเก่าได้ 55 บาทก็ชื้กับข้าวขึ้นมากินและเที่ยงคืนก็จะลงไปเก็บของเก่าอีกครั้งต้องให้รอร้านอาหารปิดก่อนเวลา0.4.00-0.5.00 น.ก็ขึ้นห้องนอน ส่วนเรื่องย้ายออกจากที่พักตนก็ยังไม่รู้เลยว่าจะไปอยู่ที่ไหนเงินก็ยังไม่มีที่จะไปเช่าห้องอยู่ที่อื่นคงต้องนอนใต้สะพานเพื่อหลบแดดหลบฝน
ต่อมาทสงผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบ ถาม น.ส.หมิว เจ้าหน้าที่ดูแลตึกดังกล่าวเล่าว่าที่ผ่านมาเมื่อก่อนก็ให้น.ส.จันทรา ศิริกุล ภรรยาของลุงชาญ คอยทำความสะอาดที่ตึกจ้างอาทิตย์ละ 600 บาทคือทำอาทิตย์ละวันก็ไม่ได้เก็บค่าเช่าห้อง ต่อมาก็ไม่ได้ให้ป้าเขาทำก็ต้องเก็บค่าห้องและค่าน้ำค่าไฟและที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ สองสามีภรรยาได้ติดค่าเช่าห้องเกือบ 20,000 บาทแล้วและน.ส.จันทรา ศิริกุล ซึ่งเป็นภรรยาได้มาบอกกับตนว่าจะย้ายออกจากห้องตั้งแต่เดือน ก.พ ที่ผ่านมาก็ยังไม่ย้ายออกซึ่งทางตึกก็สงสารเขาเหมือนกันและคิดว่าต้นเดือนหน้าคงต้องให้ลุงกับป้าย้ายออกเพราจะมีคนอื่นเข้ามาอยู่แล้ว.
Discussion about this post