เมื่อวันที่ 19 ก.ค.66 ที่ศูนย์เรียนรู้ป่าครอบครัวด้านการเพาะพันธุ์กล้าไม้จากป่าชุมชน บ้านทุ่งพุฒิ หมู่ที่ 11 ตำบลอ่างทอง อ.ทับสะ แก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราช การจังหวัดฯ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ เป็นประ ธานกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ภายใต้โครงการส่งเสริมการยกระดับการบริหารจัด การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กิจกรรมย่อย ป่าครอบ ครัว สืบสานปณิธานพ่อ สานต่อเศรษฐกิจพอเพียง มี นายนิทัศน์ จันทร์ทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อมจังหวัดฯ นายสมเจตร์ เจริญทรง นายอำเภอทับสะแก ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น เครือข่าย ทสม. แขกผู้มีเกียรติ และประชาชน ร่วมกิจกรรม มีการประกอบพิธีทางสงฆ์ บวชป่า ปลูกต้นไม้ จากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้เยี่ยมชมพื้นที่แสดงและจำหน่ายสินค้าและบริการจากเครือข่ายป่าครอบ ครัวบ้านทุ่งพุฒ บ้านโคกตาหอม บ้านหนองเหียง บ้านเขาราง และบ้านม้าร้อง พร้อมเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติพันธุ์ไม้และพืชสมุนไพร และชมดอกพุดป่า โดยปัจจุบัน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้มีการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ป่าครอบครัว จำนวน 18 เครือข่าย ครบทั้ง 8 อำเภอ เพื่อส่งเสริมการใช้ประ โยชน์และอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในวันนี้ เป็นการ “คืนธรรมชาติสู่ธรรม” ในการนำคำสอนทางพระพุทธศาส นาไปปรับใช้ให้สอดคล้องกับแนวคิดการปลูกป่านอกป่า หรือการยกป่ามาไว้ในวัด หรือบ้าน หรือที่เรียกว่า “ป่าครอบครัว” ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางสังคมเพื่อชีวิตและความหลากหลายทางชีวภาพเป็นเรื่องใหม่ที่อยู่บนฐานคิดที่ว่า ครอบครัวเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสังคม และมีบทบาทสำคัญที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลงต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ย่อมสามารถเสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็งและเกิดการพัฒนาพื้นที่สีเขียวในท้องถิ่นของตนให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงขอเชิญชวนทุกคนร่วมเป็นเครือข่ายป่าครอบ ครัว ด้วยการปลูกต้นไม้หลากหลายชนิดในที่ดินที่ครอบครัวครอบครองอยู่ เช่น ที่ว่างในบ้าน ตามหัวไร่ปลายนา หรือปลูกแซมในสวนในแปลงปลูกพืชเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเป็นพื้นที่ป่าดั้งเดิมที่อนุ รักษ์ไว้ให้เป็นป่าธรรมชาติ หรือเป็นพื้นที่ที่ครอบครัวปลูกขึ้นใหม่ เพื่อเป็นแหล่งอาหารและป่าที่ยั่งยืน ตามนโยบายการเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ร้อยละ 40 ของพื้นที่จังหวัดต่อไป ซึ่งสามารถขอรับกล้าไม้ได้จากสำนักงานทรัพยา กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์.
Discussion about this post