เมื่อวันที่ 19 ก.ค 2566 ที่อาคารพาณิชย์ สูง3 ชั้น เลขที่ 307-309 ชั้น 3 ห้อง 302 ถ.นนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี นายชาญ เกษร อายุ 56 ปี ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ น.ส.จันทรา ศิริกุล ภรรยาอาชีพรับจ้างทั่วไป บางวันไม่มีงาน ต้องเก็บขยะขายได้วันละ 50-60 บาทเพื่อชื้ออาหารประทังชีวิตซึ่งในแต่ละวัน และต้องเช่าห้องนอนเดือนละ 1800 ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ ในห้องนอนไม่มีแม้แต่หมอนหนุนหัวซึ่งสองสามีภรรยาติดค่าเช่าห้องรวมค่าน้ำค่าไฟเกือบ 20,000 บาท ซึ่งนายชาญ เกษร อายุ 56 ปี ป่วยเป็นอัม พฤกษ์ ไม่มีบัตรคนพิการ ต่อมาพม.พร้อมกองสวัสดิการเทศ บาล นครนนทบุร สำนักงานพัฒนาสังคม จ.นนทบุรี เข้าช่วยเหลือในเบื้องต้นช่วยเหลือเงินในเบื้องต้นเป็นจำนวนเงิน 3,000บาท และเตรียมเอกสารเพื่อทำบัตรคนพิกการให้กับ นายชาญ เกษร พร้อมโทรแจ้งรพ.พระนั่งเกล้า เพราะนายชาญ เข้ารับการลักษาตัวที่ รพ.ดังกล่าวพร้อมจะได้รับเบี้ยยังชีพคนพิการเดือนละ 3000 บาทตลอดชีพ ซึ่งบางสถานีเห็นลุงกับป้าทั้งสองคนดูแล้วน่าสง สารช่วยเปิดบัญชีรับบริจาคเงินกับผู้ที่มีจิตรศรัทธาคนละเล็กคนละน้อยตามจิตรศรัทธาเพื่อที่สองสามีภรรยาจะได้มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องค่าน้ำค่าไฟค่ายาไปหาหมอรวมทั้งค่ากิน ซึ่งได้เปิดบัญชีรับบริจาคได้ 2 วันมีผู้มีจิตรศรัท ธาโอนเงินเข้ามาช่วยเหลือเป็นจำนวนเงิน 26,833.27 บาทและในวันพรุ่งนี้ป้าจะนำเงินไปจ่ายค่าเช่าห้องที่ติดค้างรวมเป็นจำนวนเงิน 22,295 บาท และเงินส่วนที่เหลือเก็นเป็นค่าใช้จ่ายและค่าหมอ
ซึ่งในวันนี้ น.ส.จันทรา ศิริกุล ภรรยา ได้พานายชาญ ไปหาหมอที่ รพ.พนั่งเกล้าตามที่หมอนัด ซึ่งน.ส.จันทรา ภรรยาได้พานายชาญ ที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ลงบันใดจากห้องพักบนชั้น 3 อย่างทุลัก ทุเลมาแล้วขึ้นรถเข็นที่ น.ส. จันทรา เข็นไปเก็บขยะขายในแต่ะวันเพื่อพานายชาญ ไปหาหมอที่ รพ.พระนั่งเกล้า และน.ส.จันทรา ก็เข็นรถทั้งไปและกับห่องพักในระยะทางประมาณ 300 เมตร.
Discussion about this post