เมื่อเวลา05.30 น.วันที่20กค.66ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรีรับแจ้งจากนายนันท์ ไชยเนตร อยู่บ้านเลขที่ 142 ม.9 บ้านกระเดียง ต.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ว่าพบเห็นช้างป่าตัวใหญ่มายืนกินอ้อยที่หน้าบ้านทั้งคนทั้งช้างตกใจพากันผละหนีจึงเดินทางไปพบกับชาวบ้าน นายนันท์ ไชยเนตร กล่าวว่าช่วงตี 4 ครึ่งที่ผ่านมาขณะที่ตนเองกำลังจะขับรถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านเพื่อที่จะไปทำงานทันใดนั้น แสงไฟหน้ารถส่องเห็นช้างตัวใหญ่ตัวหนึ่งอยู่ข้างหน้ากำลังยืนหักต้นอ้อยที่ปลูกไว้หน้าบ้านกิน จึงส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจทั้งคนทั้งช้างพากันผละหนีไปคนละทิศคนละทาง พบว่าช้างเดินหนีไปทางทิศใต้โดยไม่ได้ถ่ายรูปช้างเพราะตกใจกลัว
ต่อมามีชาวบ้านบอกว่าพบรอยช้างป่าแวะกินขนุนสุกและถอนต้นมันของเพื่อนบ้านกินบริเวณชายคลอง จึงเดินทางไปตรวจสอบพบรอยช้างป่าตัวใหญ่เดินลัดเลาะออกจากป่ามันสำปะหลัง จากการสำรวจรอยช้างป่าตัวดังกล่าวพบว่า รอยช้างข้ามลำคลองซึ่งชาวบ้านเรียกว่าคลองยางคาดว่าช้างป่าตัวดังกล่าวออกมาจากเขตอุทยานแห่งชาติทับลานมุ่งหน้ามายังจุดบริเวณดังกล่าวข้ามคลองมาหากินข้างหมู่บ้าน ซึ่งมีแหล่งอาหารจำพวกมันสำปะหลังกล้วยที่ชาวบ้านปลูกไว้
เวลา06.30 น.นายสุภาชัย หาสูงเนิน กำนันตำบลนาดี ประสานหน่วยป่าไม้จากหน่วยป้องกันและรักษาป่าไม้วังมืดเข้ามาตรวจสอบและออกติดตามช้างตัวดังกล่าว พบว่าช้างป่าตัวดังกล่าวนั้นเดินย้อนกลับจากจุดที่พบเห็น ต่อมาได้รับแจ้งว่ามีการพบเห็นช้างป่าตัวดังกล่าวเดินอยู่ที่หมู่ที่ 2 บ้านเหลือง เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพบรอยช้างป่าเดินข้ามถนนลงป่ามันสำปะหลังของชาวบ้านมุ่งหน้ากลับเขาทับลาน เจ้าหน้าที่วัดรอยเท้าช้างป่าจากการวัดรอยเท้าวัดได้ 41ซม.น่าจะเป็นช้างตัวเดียวกันที่เข้าไปกินอ้อยที่หน้าบ้านของชาวบ้าน
นายสมจวน เครือโสม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่าพบเห็นช้างกำลังเดินข้ามถนนและเข้าป่ามันของชาวบ้านมุ่งหน้าขึ้นเทือกเขาอุทยานแห่งชาติทับลาน และได้แจ้งเตือนชาวบ้านให้เฝ้าระวัง คาดว่าช้างป่าจะออกมาหากินในพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านซึ่งมีมันสำปะหลัง และอื่นๆของชาวบ้านซึ่งอยู่ในรัศมีเส้นทางหากิน 10 กม.
Discussion about this post