ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 21 ก.ค.66 ที่สภ. ปากเกร็ด นายจำลอง เอี่ยมละออ อายุ 58 ปี อาชีพ วิจยย.รับจ้าง เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดกว่า 30 ราย ที่รุมทำร้ายร่างกายลูกชายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะเผารถจยย.ที่ใช้หากินในชีวิตประจำวันไหม้เป็นเศษเหล็ก ก่อนจะเดินทางไปรับตัวลูกชายคือนายนนท์ (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 16 ปี นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่4 ผู้ได้รับบาดเจ็บถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกายใช้อาวุธมีดฟัน และยิงอีก 1 นัด ที่โรงพยาบาลกรมชลประทาน มาพักรักษาตัวต่อที่บ้านพักแห่งหนึ่ง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยร่างกายทั่วตัวเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและบาดแผล เย็บทั้งหมด 30 เข็ม ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
กล้องวงจรปิดบันทึกภาพวันที่ 16 ก.ค.66 เวลาประมาณ 02.00 น. พบกลุ่มวัยรุ่นกว่า 30 คน ขี่จยย. กว่า 15 คัน อัดซ้อนท้าย ขับขี่ผ่านแยกไฟแดงประเสริฐอิสลาม ถ.เลี่ยงเมืองปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ก่อนจะมุ่งหน้าไปรวมตัวกันต่อที่บริเวณแยกไฟแดงกรมชลประทานแล้วก่อเหตุในเวลา 02.38 น.
นายจำลอง กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางไปรับลูกชายออกมาจากโรงพยาบาล ทางหมอมีการนัดไปล้างแผลวันที่ 8 ก.ค.66 นี้ หลังจากรับตัวมารักษาที่บ้านตนต้องคอยเป็นคนดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะบ้านอาศัยอยู่กัน 4 คน แม่น้องนนท์ไปทำงาน ลูกสาวไปโรงเรียน ส่วนตนขับวินจยย.รับจ้างอยู่แถวหมู่ บ้านก็จะมาแวะดูช่วงเช้า กลางวัน เย็น และคอยหาข้าวหาน้ำให้กิน เนื่องจากยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หลังเกิดเหตุตอนนี้ตนต้องเช่ารถจยย.วันละ 100 บาท ซึ่งรถที่ถูกไฟไหม้ไปตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ซึ่งวันนนี้ตนได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่สภ.ปากเกร็ด ให้ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายมาดำ เนินคดีตามกฎหมาย ตอนนี้ตนลำบากมากค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นต้องดูแลลูกชายที่ยังพักฟื้นร่างกายต่อ ปกติตนขับวินจยย.รายได้วันละ 700 บาท ตอนนี้ต้องเสียค่าเช่ารถจยย.และค่ากินเพิ่มมากขึ้น อยากให้ผู้ก่อเหตุมารับผิดชอบชดใช้และชดเชยรายได้ที่ขาดหายไปทุกวันนี้อยู่แบบยากลำบากมาก
นายนนท์ ผู้บาดเจ็บสาหัส กล่าวว่า หลังจากเหตุการณ์ที่รุ่นพี่ตนชื่อปามโดนยิงเข้าที่บริเวณนิ้วโป้งเท้า และขี่จยย.หนีเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลกรมชล ตนและเพื่อนคือนายบอลจึงรีบขี่จยย. กลับไปเอาบัตรประจำตัวประชา ชนที่บ้านของรุ่นพี่แล้วก็ขี่นำมาให้หมอตามปกติ ขณะที่กำลังออกจากโรงพยาบาลเพื่อจะกลับบ้าน ก็พบกลุ่มวัยรุ่นกว่า 20 คน รวมตัวอยู่บริเวณป้อมยามหน้ากรมชนและตะโกนว่า “มึงเด็กบางพังป่าว” ก่อนคว้าปืนไล่ยิงตน จึงรีบขี่รถหลบออกมาจะหนีเข้าไปในโรงพยาบาลกรมชลประทานแต่ไม่ทัน เพราะขับเลยซอยแล้วเสียหลักรถล้ม ตนและเพื่อนจึงรีบวิ่งหนีแยกกันไป ตนไปหลบที่บริเวณพุ่มไม้ในตึกแถวนั้น ส่วนเพื่อนหลบหนีเข้าไปในโรงพยาบาล ขณะที่คนหลบอยู่ตรงซุ้มร้านค้า กลุ่มผู้ก่อเหตุมาเห็นจึงเรียกเพื่อนมารุมกระทืบเสร็จ ก็ใช้มีดฟันซ้ำตรงแขนและข้อศอก พร้อมพูดย้ำหลายครั้งว่า “มึงเด็กบางพังป่าว” ตนตอบไปว่าไม่ใช่แล้วขอร้องให้หนุดแต่อีกฝ่ายไม่ยอมหยุด ก่อนใช้ปืนยิงตน 1 นัด เข้าที่ใน้ราวนมขวา แล้วรีบขับหลบหนีไป หลังจากที่ตนถูกยิงตนนอนขดตัวแกล้งตายอยู่ที่เกิดเหตุเพื่อรอให้กลุ่มผู้ก่อเหตุขับหนีไป ผ่านไปสักพักเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจก็มาถึง ตนจึงรีบเดินออกมาขอความช่วยเหลือกับตำรวจ แต่กลับพบว่ารถมอเตอร์ไซค์ของพ่อตนไฟกำลังลุกไหม้ ซึ่งเป็นรถที่คุณพ่อของตนใช้ขับวิน ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเรื่องกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ และไม่รู้จักกันด้วย ส่วนอาการตอนนี้เริ่มดีขึ้น มีแขนที่ยังยกไม่ได้ มีแผลทั้งหมด 10 กว่าแผล เย็บไปแล้วทั้งหมดเกือบ 30 เข็ม ตนนี้ยังไปโรงเรียนไม่ได้ ต้องการให้อีกฝ่ายรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น.
Discussion about this post