
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 ก.ค. 66 ร.ต.อ.พิทักษ์ ทราบรัมย์ พนัก งานสอบสวน สภ.เมืองจันทร์ ได้รับแจ้งมีเหตุฆาตกรรม และมีเสียชีวิต ที่กระท่อมกลางทุ่งนา บ้านแคนน้อย ต.เมืองจันทร์ อ.เมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย และแพทย์เวร รพ.เมืองจันทร์
ที่เกิดเหตุภายในกระท่อมพบร่าง น.ส.โฉมฉาย ขันติวงค์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 4 ต.เมืองจันทร์ อ.เมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ นอนหงายเสียชีวิตในลักษณะกางแขนออกทั้งสองข้าง สวมชุดชุดยูนิฟอร์มของ รพ.เมืองจันทร์ ซึ่งเป็นชุดทำงานสีชมพู บริเวณศีรษะถูกตีด้วยของแข็ง เลือดไหลนองพื้น และลำคอถูกสายกระเป๋ารัดคอ จนเป็นรอยเขียวช้ำ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุได้หลบหนีไป
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายทำงานเป็นพนักงานของ รพ.เมืองจันทร์ ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ออกเวร และน่าจะได้นัดหมายกับ อดีตสามี เพื่อพูดคุยเคลียร์ปัญหาครอบครัว ที่กระ ท่อมกลางนา ซึ่งเป็นกระท่อมของผู้ตาย คาดว่าไม่สามารถตกลงและเคลียร์ปัญหาได้ จึงเกิดเหตุ การณ์เศร้าสลดดังกล่าว
นางสถิดาภรณ์ เมืองจันทร์ กำนันตำบลเมืองจันทร์ เล่าว่า ได้ทราบจากลูกบ้านว่าทั้ง 2 มีปัญหาครอบครัวกัน และเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา อดีตสามี ของผู้ตายเคยมีคดีความกระทำชำเรา ลูกเลี้ยงอยู่ด้วย จึงน่าจะมีการนัดมาพูดคุยกัน โดยเมื่อเช้านี้ แม่ของผู้ตายเอะใจว่า ทำไมลูกสาว ออกเวรแล้วไม่กลับบ้าน จึงเดินทางมาดูที่กระท่อมแห่งนี้ และเห็นลูกสาวในสภาพนอนหงาย มีเลือดไหลออกที่ศีรษะ จึงได้แจ้งเพื่อนบ้านให้เข้าช่วยเหลือ
ทั้งนี้เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวมทั้งสอบพยานในที่เกิดเหตุแล้ว ซึ่งจะได้เรียกอดีตสามี ของผู้ตายเข้ามาทำการสอบสวน ว่ามีส่วนเกี่ยว ข้องกับเหตุการณ์นี้หรือไม่ เพราะตกเป็นผู้ต้องสงสัยเป็นคนแรก โดยได้สั่งให้ชุดสืบสวนออกติด ตามตัวมาสอบสวนแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันเกิดเหตุ เฟซบุ๊ก ของอดีตสามี ผู้ตาย ที่ใช้ชื่อว่า “พรเทพ พรจันทร์” ได้อัพเดทรูปโปรไฟล์ เป็นสีขาวดำ และได้โพสข้อความว่า “ไม่อยากให้จบแบบนี้เลย ชีวิตมันไม่ใช่ความจริง ผมรับไม่ได้หรอกเสียใจ และผมอายุขนาดนี้ อย่าอยู่เลย พอกันทีกับโลกใบนี้ รักทุกคน ช้าเร็วก็ปวดร้าว ปิดคดีจบๆ เสียที ถูกผิดไม่มีใครฟังรักเหมือนลูกในใส้ เอาอะไรมาตัดสิน เมียก็ไม่ฟัง แยกย้าย กันตายเถอะ”
ต่อมา เจ้าหน้าที่กู้ชีพฯ นำร่างผู้ตายขึ้นรถตำรวจ สภ.เมืองจันทร์ ออกจากที่เกิดเหตุ เนื่องจากรถกู้ชีพฯ ไม่สามารถ เข้าไปรับศพได้ เพื่อนำไปนิติเวช ตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด ที่ รพ. ศรีสะเกษ ก่อนจะนำศพให้ญาติ ไปบำเพ็ญกุศล ตามศาสนาต่อไป.
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน
Discussion about this post