วันที่ 4 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ที่มีพายุฝนตกลงมาในพื้นที่จังหวัดนครพนมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ วันที่ 28 ก.ค. 66 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 8 วัน ทำให้ในพื้นที่อำเภอท่าอุเทน อำเภอนาแก และอำเภอธาตุพนม มีปริมาณน้ำฝนสะสมในพื้นที่เป็นจำนวนมาก จนเป็นเหตุให้เกิด น้ำท่วมขังในที่ลุ่ม และ น้ำล้นตลิ่งตามลำห้วยสาขาต่างๆ ที่ไหลระบายลงแม่น้ำโขงไม่ทัน ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมขังและชำรุดเสียหาย รวมถึงพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง กินพื้นรวมกว่า สี่พันไร่ ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานต่าง ๆ ได้บูรณาการความร่วมมือกันเข้าช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประ ชาชนในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 210 (ศบภ. มทบ.210) ได้จัดกำลังพลชุดช่วยเหลือ กองร้อยบรรเทาสาธารณ ภัย 210 พร้อมด้วย ยุทโธปกรณ์ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ โดยได้ลงพื้นที่ บ้านโคกสว่าง ตำบลฝั่งแดง ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำช่วงปลายทางก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง ที่เกิดน้ำท่วมขังรอการระบายตามพื้นที่การเกษตรและคอกสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ ก็ได้นำกระสอบแกลบมากั้นหนุนคอกสัตว์เลี้ยงให้สูงขึ้นเพื่อให้สัตว์ได้อยู่อาศัยได้เหมือนเดิม ขณะเดียวกันก็ช่วยในการขนย้ายเครื่องมือทางการเกษตรขึ้นที่สูง ส่วนที่บ้านนายาง หมู่ที่ 7 ตำบลพุ่มแก อำเภอนาแก ซึ่งถนนเพื่อการเกษตรที่ประชาชนใช้ในการสัญจรไปมาถูกน้ำกัดเซาะจนขาดไม่สามารถใช้งานได้ ก็ได้จัดกำลังพลเข้าเคลื่อนย้ายท่อน้ำที่ไหลไปตามกระแสน้ำที่กัดเซาะมาเก็บไว้เพื่อใช้ในการก่อสร้างใหม่ รวมถึงเตรียมสร้างสะพานข้ามชั่วคราวให้ประชาชนได้ใช้สัญจรไปมาในระหว่างนี้ก่อนเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน
ด้านพันเอกศรัณธ์ชัย ทิพย์ปัญญา ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ก็ได้จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว พร้อมเครื่องจักรกล เข้าติดตั้งสะพานชั่วคราวให้ประ ชาชนได้ใช้งาน หลังได้รับการประสานจากองค์การบริหารส่วนตำบลพุ่มแก ขอการสนับสนุนในการแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่เนื่องจากถนนที่ใช้สัญจรไปมา ระหว่างบ้านหนองกุงไปยังบ้านคำบอน ตำบลพุ่มแก อำเภอนาแก ถูกน้ำกัดเซาะขาดจนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ซึ่งปกติถนนเส้นนี้จะมีคนใช้งานประมาณ 300 คนต่อวันจนสามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว
ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงในเช้านี้ วัดที่สถานีวัดน้ำเขตเทศ บาลเมืองนครพนม มีระดับอยู่ที่ 8.5 เมตรเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 60 ซม. โดยห่างจากจุดวิกฤติ ประ มาณ 4 เมตรซึ่งระดับวิกฤติจะอยู่ที่ 12.50 เมตร ซึ่งยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา เนื่องจากยังคงมีฝนตกกระจายครอบคลุมตลอดแนวลำน้ำโขงทั้งฝั่งลาวและฝั่งไทย ซึ่งขณะนี้ทางเทศบาลเมืองนครพนมได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มาติดตั้งเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะสูบน้ำระบายลงสู่แม่น้ำโขงหากเกิดสถานการณ์น้ำ ท่วมขึ้นในเขตเทศบาลเมืองนครพนม.
Discussion about this post