วันที่ 5 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถึงแม้ว่าสถานการณ์ฝนตก ได้เริ่มอ่อนกำลังลงตั้งแต่ช่วงเย็นของเมื่อวานวาน ระดับน้ำแม่น้ำโขงพื้นที่เขตเทศบาลเมืองนคร พนม วัดได้ 8.91 มม. เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน ที่ 0.92 มม.แต่ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาสะสมต่อเนื่องตลอดหลายวันที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำสะสมจากพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดนครพนม ได้ไหลท่วมตามลำน้ำห้วยคลองจนเกิดการล้นเอ่อในหลายพื้นที่ ก่อนไหลลงสู่ลำนำสาขาก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง ได้สร้างความเสียหายต่อพื้นที่พื้นที่เกษตรและถนนถูกน้ำไหลเซาะเสียหายในหลายพื้นที่
จากการสำรวจความเสียหายล่าสุด จากสำนักงานป้องกันภัยและบรรเทาภัยจังหวัดนครพนม พบว่ามี 10 อำเภอ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ประกอบด้วยพื้นที่ อำเภอนาทม ราษฎรได้รับผลกระทบ 3 ตำบล 10หมู่บ้าน พื้น ที่การเกษตรเสียหาย ประมาณ 1,000ไร่ อำเภอเมืองนครพนม ราษฎรได้รับผลกระทบ 3 ตำบล 5 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรเสียหาย ประมาณ 995ไร่ อำเภอโพนสวรรค์ ราษฎรได้รับผลกระทบ 5 ตำบล 18หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรเสียหาย ประมาณ 2,195 ไร่ อำเภอธาตุพนม ราษฎรได้รับผลกระทบ 4 ตำบล 10หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรและสัตว์เลี้ยงได้รับความเสียหาย ประมาณ 3,700ไร่ อำเภอเรณูนคร ราษฎรได้รับผลกระทบ 4 ตำบล 19หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรเสียหาย ประมาณ 797ไร่ บ้านเรือนเสียหาย 216 หลังคาเรือน อำเภอนาหว้า ราษฎรได้รับผลกระทบ 6 ตำบล 18 หมู่ บ้าน พื้นที่การเกษตรเสียหาย ประ มาณ 1,884 ไร่ พื้นที่เลี้ยงปลาของเกษตรกรเสียหาย 23 บ่อ อำเภอนาแก ราษฎรได้รับผลกระทบ 2 ตำบลพุ่มแกและโคกสวัสดิ์ พื้นที่การเกษตรและถนนเพื่อการเกษตร 1 เส้นทางเสียหาย ทั้งนี้หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ก็ได้จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว พร้อมเครื่องจักรกลและรถสะพานเครื่องหนุนมั่น Modular Fast Bridge เข้าติดตั้งสะพานชั่วคราวให้ใช้งาน ได้ชั่วคราว ส่วนพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย ประมาณ 3,365 ไร่
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมพร้อมด้วย นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ ปลัดจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยสำนักงานป้องกันภัยและบรรเทาภัยจังหวัดนครพนม รวมถึงหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ก็ได้จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว ได้ร่วมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ เพื่อรับทราบข้อมูลสถานการณ์และผลกระทบของประชาชนในพื้นที่ พร้อมประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ข้อมูลในการติดต่อประสานงานและเข้าถึงการให้ความช่วยเหลือของรัฐ ในด้านเยียวยาความเสียหายทางการเกษตร การปศุสัตว์ การประมง การสาธารณสุข และการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ได้รับผลกระทบ
พลตรี สถาพร บุญชู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่มีพายุฝนตกลงมาในพื้นที่จังหวัดนครพนมมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2566 ทำให้ในพื้นที่อำเภอท่าอุเทน อำเภอนาแก และอำเภอธาตุพนม เกิดน้ำสะสม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง ถนนชำรุด รวมถึงพื้นที่การเกษตรเสียหาย ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานต่าง ๆ ได้บูรณาการความร่วมมือเข้าช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประ ชาชนในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 210 (ศบภ.มทบ.210) ได้จัดกำลังพลชุดช่วยเหลือ กองร้อยบรรเทาสาธารณภัย 210 และยุทโธปกรณ์ลงพื้นที่บ้านโคกสวาง ตำบลฝั่งแดง ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำช่วงปลายทางก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง ที่เกิดน้ำท่วมขังรอการระบายตามพื้นที่การเกษตรและคอกสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ ก็ได้นำกระสอบแกลบมากั้นหนุนคอกสัตว์เลี้ยงให้สูงขึ้นเพื่อลดความเสียหายและสูญเสียสัตว์เลี้ยงได้ระดับหนึ่ง
ขณะเดียวกันยังได้เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนในการขนย้ายเครื่องมือทางการเกษตรขึ้นที่สูง ส่วนที่บ้านนายาง หมู่ที่ 7 ตำบลพุ่มแก อำเภอนาแก ถนนเพื่อการ เกษตรที่ประชาชนใช้ในการสัญจรไปมาถูกน้ำกัดเซาะจนขาดไม่สามารถใช้งานได้ จึงได้จัดกำลังพลเข้าเคลื่อนย้ายท่อน้ำที่ไหลไปตามน้ำที่กัดเซาะมาเก็บไว้เพื่อใช้ในการก่อสร้างใหม่ รวมถึงเตรียมสร้างสะพานข้ามชั่วคราว เพื่อให้ประชาชนได้ใช้สัญจรไปมาในระหว่างนี้ก่อนเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเป็นการชั่วคราว.
Discussion about this post