ยะลา – รองอธิบดีกรมป่าไม้ ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการสถานที่ท่องเที่ยวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง หลังได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดยะลา หารือและกำหนดเป็นแนวทางมาตรการดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาที่ถูกจุด ตรงประเด็น ลดความเข้าใจผิด สร้างความภาพลักษณ์ที่ดีพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวของป่านันทนาการทะเลหมอกอัยเยอร์เวง
วันนี้(5 ส.ค.66) ที่บริเวณชั้น2 ของอาคารสกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วย พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการสถานที่ท่องเที่ยวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อรับฟังข้อเท็จจริงจากป่านันทนาการทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ภายหลังจากที่มีนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดซึ่งเดินทางมาเที่ยวที่สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดยะลา ว่าได้เดินทางมาท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา พร้อมกับเดินทางไปชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวงด้วย ในเช้าของวันที่ 23 เมษายน 2566 แต่เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความไม่พอใจ รวม 3 เหตุการณ์ คือ 1.มีการขวางทางกันระหว่างรถของตนกับนักท่องเที่ยวขณะเดินทาง 2.ไม่พอใจคนจัดนักท่องเที่ยวขึ้นรถยนต์สองแถว ตะโกนผ่านโทรโข่งเสียงดัง และมีการแย่งคิวกันกับคณะทัวร์ 3.ไม่พอใจนักท่องเที่ยวแย่งกันเข้าแถวโดยกลุ่มที่มากันจำนวนมากๆจะเรียกเพื่อนมาแทรกแถว โดยทั้ง 3 กรณีแจ้งว่าไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาควบคุม ประกอบกับมีนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวสกายวอล์คโพสลงสื่อโซเชียลมีเดียอยู่บ่อยครั้งเกี่ยวกับการไม่ได้รับความสะดวกในการท่องเที่ยว ซึ่งหลังได้รับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดยะลา ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังกรมป่าไม้ เพื่อจะได้นำไปสู่การตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่การท่องเที่ยวในพื้นที่ต่อไป โดยมีนายปรีชา แสงเทียน ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 สาขานราธิวาส พร้อมด้วย
นายสรธร เพชรแก้วเพชร ผู้อำนวยการป่านันทนาการทะเลหมอกอัยเยอร์เวง และเจ้าหน้าที่ป่านันทนาการทะเลหมอกอัยเยอร์เวงร่วมชี้แจงข้อมูล และมีตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งมีอาชีพมีรายได้จากการมีแหล่งท่องเที่ยวสกายวอล์ค ทั้งขับวินมอร์เตอร์ไซค์ รถสองแถว ค้าขาย ผลิตถุงหุ้มรองเท้า และเปิดที่พักโฮมสเตย์รองรับนักท่องเที่ยวเข้าร่วมรับฟัง
นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ ได้มอบหมายให้ลงพื้นที่มารับฟังความคิดเห็นปัญหาอุปสรรครวมถึงข้อร้องเรียนจากนักท่องเที่ยว ซึ่งทางกระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อม โดยนายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้นโยบายมาโดยตลอดว่าป่าไม้ต้องทำให้คนอยู่ร่วมกับป่าและร่วม พัฒนาป่าให้ได้ การที่มีป่านันทนา การทะเลหมอกอัยเยอร์เวงแห่งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ประชาชนที่อยู่รอบๆเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีรายได้จากการที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอยู่โดยไม่กระทบต่อระบบนิเวศและทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อม ทำให้การท่องเที่ยวเกิดรายได้ การเดินทางมารับฟังปัญหาจากการร้องเรียนของนักท่องเที่ยวที่สะท้อนผ่านทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและหน่วยงานพื้นที่ก็ทำให้ได้รู้ว่าปัญหาบางอย่างเกิดจากที่ผ่านมาอาจจะยังมีการพูดคุยกันไม่เพียงพอ ก็คงต้องคุยกันให้มากขึ้นทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชาวบ้าน ศอ.บต.และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องให้ได้เข้าใจว่าทางป่าไม้ในฐานะเจ้าของพื้นที่ซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติมีหน้าที่บริหารจัดการป่านันทนาการแห่งนี้โดยเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ซึ่งตนเองได้มอบหมายให้ทาง สชป.ปรับปรุงคำสั่งซึ่งออกไว้เมื่อปี2563ของป่านันทนาการ ให้เป็นปัจจุบันและให้เรียกประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาโดยเร็ว โดยการนำข้อเสนอทั้งจากทางจังหวัดและจากประชาชนในพื้นที่เข้าประชุมหารือและกำหนดเป็นแนวทางมาตรการดำเนินการเพื่อจะได้เป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุดตรงประเด็น ลดความเข้าใจผิดและความไม่เข้าใจระหว่างกัน สำหรับการที่มีข้อร้องเรียนจากประชาชนและผ่านสื่อโซเชียลก็เป็นหน้าที่ของทางหน่วยงานต้องทำความเข้าใจกับประชาชนในทุกรูปแบบโดยต้องชี้แจงด้วยเหตุและผลตามหลักกฎหมายและระเบียบของกรมป่าไม้
รองอธิบดีกรมป่าไม้ ยังกล่าวด้วยว่า หากข้อมูลที่มีการร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดยะลาเป็นความจริงซึ่งสร้างความไม่สบายใจให้กับประชาชนที่มาท่องเที่ยว ทางกรมป่าไม้ก็ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งทางป่านันทนาการฯเองก็อาจจะประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวได้ไม่ทั่วถึงเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของป่านันทนาการฯที่บริหารจัดการภายใต้ระเบียบกฎหมายและความร่วมมือ ซึ่งเรามีMOU ทั้งกับท้องถิ่นและคณะกรรมการที่ปรึกษาที่ดำเนินการกิจกรรมตรงนี้มาโดยตลอด การเก็บค่าธรรม เนียม การประชุมวิธีการจัดการต่างๆเรามีการประชุมหารือกันมาตลอด เพียงแต่ว่าการดำเนินการนั้นอาจจะยังไม่ทันท่วงทีไม่ตอบสนองในช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางกรมป่าไม้และหน่วยงานในพื้นที่รับไปดำเนินการปรับปรุง จากการประ ชุมในครั้งนี้ทำให้ทราบแล้วว่าเราควรจะปรับปรุงอะไร ตรงไหน โดยความร่วมมือจากใครบ้าง จะได้นำข้อสังเกตและเสียงสะท้อนจากการประชุมหารือในครั้งนี้ไปปรับปรุงพัฒนาการท่องเที่ยวตรงนี้ให้เกิดมาตรฐานควบคู่ไปกับความสวยงามและปลอดภัย.
Discussion about this post