เมื่อวันที่ 6 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวราย งานว่า บรรยากาศการท่องเที่ยว ที่บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา เกาะกลางน้ำห้วยน้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ มีประชาชน นักท่องเที่ยว เดินทางมาเที่ยวชมสวนสาธารณะกันอย่างคึกคัก ซึ่งในสวนสาธาร ณะ ดังกล่าว จะมีแหล่งท่องเที่ยวอยู่ 2 จุด หลักๆคือ จุดที่ 1 ศูนย์ศิลปอารยธรรมสี่เผ่าไทย และหอคอยชมทัศนียภาพจังหวัดศรี สะเกษ หรือหอศรีลำดวนเฉลิม พระเกียรติ ที่เป็นหอสูง 84 เมตร กว้าง 55 เมตร ยาว 55 เมตร รูปแบบสถาปัตยกรรมขอมประยุกต์ ซึ่งกรมศิลปากร ได้ออกแบบตก แต่งภายใน หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติ เมื่อขึ้นไปบนหอคอยจะสามารถชมทิวทัศน์ความสวนงามของสวนเฉลิมพระเกียรติ และตัวเมืองศรีสะเกษ ได้อีกด้วย
อีกหนึ่งจุดที่ไม่ไปไม่ได้คือ “ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำเทศบาลเมืองศรีสะเกษ” หรือที่รู้จักกันว่า “ศรีสะเกษ อควาเรียม” (Sisaket Aquarium) ตั้งอยู่ภายในสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา เกาะกลางน้ำห้วยน้ำคำ ที่เป็นอาคารจัดแสดงพันธุ์ปลาทะเล ปลาน้ำจืด ปลาสวยงาม และปลาหายากมากมาย ที่นี่เป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำแห่งแรกในภาคอีสานตอนใต้ สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเยาวชน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่สนใจ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดไปในตัว โดยมีปลาน้ำจืดกว่า 79 ชนิด และปลาทะเล 22 ชนิด รวมแล้วกว่า 100 ชนิดด้วยกัน
ภายในอาคารได้จัดแบ่งออกเป็นหลายโซน เรียงตามต่อกันเป็นรูปตัวยู (U) เริ่มที่โซนแนวปะการัง ที่จัดแสดงปลาสวยงามมขนาดเล็กถึงปานกลางสีสันสวยงาม ที่อาศัยอยู่ตามแนวปะการัง อย่างเช่น ปลาผีเสื้อ ปลาสินสมุทร ปลาการ์ตูน เป็นต้น เดินต่อมาจะเป็นโซนห้วงมหาสมุทร มหัศจรรย์ผู้ล่า โซนนี้จัดแสดงพันธุ์ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ฉลาม ปลาเก๋า กระเบน เป็นต้น และจัดแสดงระบบนิเวศใต้ท้องทะเลในตู้กระจก ต่อมาจะเป็นโซนสวยงามนิยมเลี้ยง โซนนี้จะจัดแสดงปลาสวยงามที่เป็นที่นิยมเลี้ยง ตัวอย่างเช่น ปลาการ์ตูน ปลาสิงโต ปลากะรัง ปลาตะพัด และอื่นๆอีกมากมาย
จากนั้นจะเข้าสู่โซนความลึกลับใต้ลุ่มน้ำ ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ โดยจะเป็นอุโมงค์แก้วที่มีทางเดินลอดใต้น้ำความยาว 24 เมตร ที่จำลองชีวิตใต้ลุ่มน้ำโขงไว้ ซึ่งมีทั้งปลาน้ำจืดหายากขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ อยู่รวมกัน เช่น ปลาบึก ปลากระโห้ ปลาสวายเผือก ปลายี่สก ปลากระเบนราหู ปลาเทพา เป็นต้น รวมถึงมีการจำลองปราสาทหินไว้ใต้น้ำอีกด้วย
เดินลอดตามอุโมงค์แก้วเข้ามาจะถึงโซนป่าดิบชื้น ที่จัดแสดงระบบนิเวศขนาดใหญ่ในแต่ละลุ่มน้ำ จัดแสดงพันธุ์ปลาที่มีความโดดเด่นกว่าสายพันธุ์อื่น เช่น ปลาเสือพ่นน้ำ ปลาม้า ปลาชะโด ฯลฯ และโดยรอบยังมีไดโนเสาร์รายล้อม และมีสนามเด็กเล่นขนาดย่อมให้เด็กได้นั่งเล่น พักผ่อน อีกด้วย และเมื่อเดินลอดอุโมงค์แก้วอีกทางออกมาจะถึงโซนระบบนิเวศแหล่งน้ำใหญ่ จัดแสดงระบบนิเวศของแหล่งน้ำไหลประเภทแม่น้ำ ลำคลอง และแหล่งน้ำลำธารธรรม ชาติตามป่าเขา ซึ่งจะได้พบกับปลาที่อยู่รวมกันเป็นฝูง เช่น ปลาตะเพียนทอง ปลาเนื้ออ่อน ปลาบ้า ปลาพาคู ฯลฯ อีกด้วย
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่สนใจจะเข้ามาเที่ยวชมทางหอศรีลำดวนเฉลิม พระเกียรติ และศรีสะเกษ อควาเรียม จะเปิดให้บริการวันอังคาร ถึง วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 16.00 น. หยุดทุกวันจันทร์ ค่าเข้าชม เด็ก 20 บาท ผู้ใหญ่ 30 บาท ผู้สูงอายุ 60 ขึ้นไป ,ผู้พิการ , พระภิกษุสงฆ์และสามเณร เข้าชมฟรี.
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน
Discussion about this post