บุรีรัมย์ – ไม่รู้หลอนอะไร ?!? ทุบบ้านแม่ตัวเองพังยับ ชาวบ้านไม่กล้าหือ วอนช่วยเหลือ !!

หนุ่มวัย 28 ปี ใช้มีดและขวานฟันข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านของแม่ เสียหายทั้งหมด ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นการหลอน ไม่ทราบว่าหลอนอะไร แต่ชาวบ้านอยู่ด้วยความหวาดผวา เพราะเคยทำแบบนี้กับบ้านตัวเองมาแล้ว หลังจากนี้อาจลามไปบ้านหลังอื่น หรืออาจมีใครเป็นอันตรายอีกหรือไม่ วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยเหลือ

ช่วงสายวันที่ 14 ส.ค.66 ตำรวจ สภ.ประ โคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีชายคลุ้มคลั่ง ทำลายข้าวของภายในบ้าน จากนั้น ร.ต.อ. เจมส์ ปุยะติ รอง สวป. สภ. ประโคนชัย นำกำลังเจ้าหน้า ที่พร้อมอุปกรณ์ไประงับเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวเลขที่ 66/1 หมู่ 3 บ้านโคกประเดียด ต.ละเวี้ย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ พบนางหญิง จรูญประโคน อายุ 69 ปี เจ้าของบ้านยืนรอให้การกับตำรวจอยู่ใกล้กับบ้านของตัวเอง

ตำรวจเข้าไปถึงพบนายสมโภช จรูญประโคน อายุ 28 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน กำลังใช้มีดพร้า ฟันข้าวของภายในบ้านอย่างบ้าคลั่ง ตำรวจต้องใช้กำลังเข้าควบคุมนานกว่า 20 นาที จึงสามารถจับกุมตัวได้ และยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งพูดจาไม่รู้เรื่อง จึงนำตัวไปสงบสติอารมณ์ที่ สภ.ประโคนชัย

จากการตรวจสอบภายในบ้าน พบว่าข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านเช่น ตู้เย็น ,ตู้กับข้าว,ตู้เสื้อผ้า , พัดลม และข้าวของอื่นๆที่อยู่ภายในบ้านเสียหายทั้งหมด พบมีดพร้าจำนวน 1 เล่ม ตำรวจจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

นายเด่น ปู่ประโคน อายุ 46 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กัน เล่าว่า ที่ผ่านมานายสมโภช เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้ว แต่ไม่รุนแรง แต่คราวนี้เป็นแบบบ้าคลั่ง จนไม่มีใครเข้าไปช่วยเหลือได้ เพราะเกรงจะเป็นอันตราย

นางหญิง แม่นายสมโภช เล่าว่า เคยพาลูกชายไปรักษาแล้วแต่ไม่หาย มาครั้งนี้รุนแรงขึ้น ยอมรับไม่กล้าอยู่บ้านตอนที่ลูกชายมีอาการผิดปกติ แต่ส่วนหนึ่งก็สงสารลูกที่เกิดอาการแบบนี้ จึงอยากจะเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐมาแก้ไขปัญ หาให้กับครอบครัวของตนเองด้วย

ด้านนายประดิษฐ์ ปู่ประโคน อายุ 52 ปี กำนัน ต.ละเวี้ย กล่าวว่า เห็นแม่วิ่งมาขอความช่วยเหลือ จึงวิ่งเข้าไปดู ได้แค่มองนายสมโภช ทำลายข้าวของภายในบ้าน ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงชาวบ้าน ซึ่งแต่ละคนต้องวิ่งหนีเอาตัวรอด บ้านหลังอื่นต้องล็อคบ้านเอาไว้ ถึงตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเขาหลอนอะไร

เหตุการณ์ในลักษณะนี้ในสังคมมีมากขึ้น แต่ยังไม่มีใครมาช่วยเหลือชาวบ้าน ส่วนตัวอยากจะให้มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถควบคุมได้อย่างเบ็ดเสร็จ.