
วันที่ 17 สิงหาคม 2566 ที่จังหวัดนครพนม พลโท จเรศักดิ์ อานุ ภาพ เป็นประธานนำคณะสมาชิกวุฒิสภาลงพื้นที่ตำบลพระซอง อำเภอนาแก และตำบลนางงาม อำเภอเรณูนคร เพื่อพบปะเยี่ยม เยียนรับฟังข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นการพัฒนาแหล่งน้ำ ระบบชลประทานและสถานีสูบน้ำ โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน ไฟฟ้า ประปา และการสนับสนุนกลุ่มวิสาหกิจ ตามโครง การสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนบน) เพื่อนำมาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณากลั่นกรองกฎหมาย และผลสัม ฤทธิ์ของกฎหมายที่ประกาศใช้บังคับแล้ว ให้สอดคล้องกับหลักตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณา จักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 77 รวมทั้งปฏิบัติภารกิจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 ที่บัญญัติให้วุฒิสภามีหน้าที่และอำนาจในการติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ ตลอดจนเสนอแนะและเร่งรัดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หมวด 16 การปฏิรูปประเทศและตามที่กำหนดในยุทธศาสตร์ชาติ
พลโท จเรศักดิ์ อานุภาพ เปิดเผยว่า วันนี้สมาชิกวุฒิสภาได้ลงมาในพื้นที่จังหวัดนครพนม ที่อำเภอนาแก และอำเภอเรณูนคร โดยวันพรุ่งนี้จะไปที่อำเภอบ้านแพงและอำเภอท่าอุเทน ซึ่งพี่น้องประชา ชนได้มาเข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างมาก รวมถึงได้รับความอนุเคราะห์จากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ปลัดจังหวัดนครพนม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้สมาชิกวุฒิสภาเคยมาแล้วเมื่อเดือนวันที่ 6 สิงหาคม 2563 ในครั้งนั้นมีการทำบันทึกเรื่องหลายเรื่องที่พี่น้องประชาชนได้เสนอประเด็นปัญหาเพื่อไปดำเนินการ ตั้งแต่เรื่องของการขอความอนุเคราะห์สถานีสูบน้ำ ท่อส่งน้ำ ผนังกั้นน้ำหรือคันดินกั้นน้ำล้นเข้าท่วมนาไร่ เรื่องการขยายทางลอดน้ำคลองชลประทาน และการขออนุเคราะห์ยกระดับถนนเลียบลำน้ำ ซึ่งวันนี้ครบ 3 ปี ก็ได้รับการชี้แจงในที่ประชุมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าได้ดำเนินการในส่วนไหนบ้าง เช่น ชลประทานได้มีการชี้แจงว่าได้นำเข้าแผนงานโครง การปี 2568 และ 2569 แล้ว นั่นหมายความว่าโครงการที่ประชา ชนได้เสนอปัญหา หน่วยงานได้มีการรับปัญหาไปจัดการเข้าแผนงานโครงการต่าง ๆ แล้ว ซึ่งกว่าจะเข้าแผนงานโครงการได้ ต้องมีการศึกษา วิเคราะห์ และการเตรียมแผนงานต่าง ๆ โดยหลังจากนี้สมาชิกวุฒิสภาจะไปติดตามอีกครั้งว่ามีการนำเข้าแผนงานโครงการจริงหรือไม่อย่างไร ในส่วนประเด็นปัญหาที่เสนอเพิ่มเติมเข้ามาในครั้งนี้ ก็ยังคงมีปัญหาเดิมซ้ำอยู่บ้างบางส่วน เพราะประชาชนต้องการเพิ่มมากยิ่งขึ้น เช่น การขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ก็ได้มีการหารือร่วมกันว่าควรจะใช้งบประ มาณส่วนไหนดำเนินการ เพราะมีตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด หน่วยงานท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีของกองทุนพลังงาน หรืองบของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อมจังหวัด ซึ่งในเรื่องนี้ได้มีการบันทึกไว้แล้ว และทางจังหวัดนคร พนมจะเป็นเจ้าภาพในการนำปัญหานี้ไปดำเนินการบูรณาการภาคส่วนต่าง ๆ ส่วนการขอสนับ สนุนเพิ่มเติมในเรื่องของการขยายคันกั้นน้ำเพื่อให้เกิดประ โยชน์เนื่องจากเดิมมีระยะทางสั้นไป ทางชลประทานจะรับไปดำเนินการ
นอกจากนี้ยังมีการเสนอขอให้มีการพัฒนาเส้นทางระหว่างอำเภอนาแกกับอำเภอเรณูนคร และอำเภอเมือง ซึ่งทางสมาชิกที่สภาจะรับเรื่องดังกล่าวไปแจ้งให้ผู้บริหารหน่วยงานที่รับผิดชอบได้รับทราบ เพราะมองว่าเป็นประ โยชน์อย่างมาก เนื่องจากเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวที่จะมาส่งเสริมการเดินทางและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยในวันนี้ถือเป็นการสร้างความเข้าใจร่วมกันในทุกภาคส่วน ทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ ท้องถิ่น เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รู้ว่าภาครัฐได้รับรู้ปัญหาแล้ว และจะไปดำเนินการแก้ไข ตรงไหน อย่างไร ต่อไป ส่วนปัญหาอะไรใหม่ที่เสนอ ก็จะรับเรื่องเพื่อเตรียมนำไปปรับปรุงเพิ่มเติม เพราะปัญหาทุกปัญหามีแนวทางการแก้ไข ซึ่งสมาชิกวุฒิ สภาพบประชาชน มาด้วยมิตร ไมตรี และปฏิบัติกับทุกท่านอย่างเป็นกัลยาณมิตร สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาทุกคนที่ได้มาเสนอแนะข้อคิดเห็นในวันนี้.
Discussion about this post