
เมื่อวันที่ 20 ส.ค.66 ที่วัดห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ พระพิศาลสิทธิคุณ หรือท่านเจ้าคุณไพโรจน์ ปภัสสโร เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล เป็นประธานในพิธีปลงผมนาคให้กับชาวพุทธประเทศศรีลังกาที่เข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทหมู่ จำนวน 95 รูป และบวชเนกขัมมจาริณี (ชีพราหมณ์) จำนวน 117 คน เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 270 ปี แห่งการสถาปนาคณะสงฆ์สยามนิกายในศรีลังกา และสมโภชเนื่องในการประดิษฐานหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ พระนามา ภิไธยย่อ สก ครบรอบ 19 ปี และเพื่อเฉลิมพระ เกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี นาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษา 12 สิงหาคม 2566 โดยมี พลตรี อาวุธ พุทธอำนวย ผู้บัญชาการศูนย์การทหารราบ (ผบ.ศร.) ค่ายธนะรัชต์, นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน, นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาด อ.หัว หิน, พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ทองงามตระกูล รอง ผบก. ภ.จ.ประจวบฯ, นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศ บาลเมืองหัวหิน และพุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมในพิธี จากนั้นได้นำนาคทั้งหมดร่วมแห่รอบเมืองหัวหินก่อนเข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณรและบวชเนกขัมมจาริณี โดยมี พระครูวิจิตรธรรมวิภัช เจ้าคณะอำเภอหัวหิน เจ้าอาวาสวัดบุษยบรรพต เป็นประธานในช่วงเย็นวันเดียวกัน โดยมีระยะเวลาการบวชรวม 10 วัน
ตามที่สาส์นจากนายรนิล วิกรมสิงหะ (Ranil Wickremesingh) ประธานาธิบดีประเทศศรีลังกา ได้ให้ผู้แทนนำไปถวายแด่ท่านพระพิศาลสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล ลงวันที่ 28 ม.ค.66 ความว่า ประเทศศรีลังกาและประเทศ ไทยมีความสัมพันธ์อันดีทางด้านพระพุทธศาส นามาเป็นระยะเวลานาน และเมื่อครั้งพระพุทธศาสนาในประเทศศรีลังกาได้เสื่อมถอยลงมาจนถึงขั้นวิกฤต พระมหากษัตริย์ของประเทศศรีลังกาสมัยนั้นได้นิมนต์พระสงฆ์สยามไปช่วยฟื้น ฟูพระพุทธศาสนาโดยความร่วมมือจากประเทศ ไทยจึงได้ฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ ภายใต้นิกายที่เรียกว่า สยามนิกาย ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธศาสนานิกายสำคัญในศรีลังกา รวมระยะเวลา 270 ปีจนถึงปัจจุบัน
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในการอันมหามงคลนี้ รัฐบาลประเทศศรีลังกาจึงขอความเมตตาอนุ เคราะห์จากท่านพระพิศาลสิทธิคุณ ได้ช่วยเหลือกำกับ ดูแล ดำเนินการจัดพิธีอุปสมบทหมู่ให้กับชาวพุทธประเทศศรีลังกาตามความเหมาะสม เพื่อเป็นการเดินทางตามรอยพระบาทของพระ พุทธองค์และสืบทอดวัฒนธรรมประเพณี ปฏิบัติติตนดำรงชีวิตตามหลักพระธรรมวินัยอย่างถูกต้องด้วยสติปัญญา เป็นการดำรงพระพุทธศาส นาให้คงอยู่สถาพร เพื่อประโยชน์สุขแห่งมวลมนุษยชาติ และเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีทางวัฒนธรรมและศาสนาระหว่างประเทศไทยและประเทศศรีลังกาต่อไป.
Discussion about this post