ที่โรงเรียนบ้านคลองเรือ (ศูนย์เรียนรู้ดาวล้อมเดือนกำแพงเพชร) นายนเรศ อินทปัตย์ นายกเทศมนตรี ตำบลเทพนคร อ.เมืองกำแพงเพชร ได้เป็นประธานในการแถลงข่าวการจัดงานคาวบอยไนท์ (Cowboy Night) ครั้งที่ 1 โดยมีคณะจัดงานภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย อำเภอเมืองกำแพงเพชร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดกำแพง เพชร สำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัดกำแพงเพชร มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร ชมรมศิษย์เก่าแม่โจ้กำแพงเพชร ชมรมชาวปักษ์ใต้กำแพงเพชร บริษัทปตท. สผ.สยาม จำกัด บริษัท ไทยเบฟเรจ จำกัด(มหาชน) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชรเขต1พร้อมคณะกรรมการศูนย์เรียนรู้ดาวล้อมเดือนกำแพงเพชร และคณะกรรมการชมรมศิษย์เก่าโรงเรียนข้านคลองเรือและสื่อมวลชนร่วมรับหังการแถลงข่าวดังกล่าว
นายนเรศ อินทปัตย์ กล่าวว่า คณะกรรมการภาคีเครือข่ายศูนย์เรียนรู้ดาวล้อมเดือนกำแพงเพชร ได้มีมติให้จัดงาน COWBOY NIGHTครั้งที่ 1 ขึ้นใน วันพฤหัส บดี ที่ 23 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ที่โรงเรียนบ้านคลองเรือ (ศูนย์เรียนรู้ดาวล้อมเดือนกำแพงเพชร) โดยกำหนดจัดงานและประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ในสังคมผ่านสื่อมวลชนทั้งนี้ เพื่อเป็นการจัดหางบประมาณที่ได้รับมาพัฒนาศูนย์เรียนรู้ดาวล้อมเดือนกำแพงเพชร ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเพื่อให้ศูนย์เรียนรู้ดาวล้อมเดือนกำแพงเพชรเป็นแหล่งเรียนรู้เกษตรแบบผสมผสาน เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตให้ ดำเนินไปบนทางสายกลาง เพื่อสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ซึ่งกิจกรรมได้กำหนดไว้สามกิจกรรมคือจัดทำผ้าป่าสามัคคีจำนวน 99 กองกองละ 999.02 บาท จัดสร้างวัตถุมงคลพระครูวิบูลย์วชิรธรรม(องค์ยืน)รุ่น1 สูง 9 นิ้ว จำนวน 99 องค์องค์ละ 3,999 บาท และการจัดคอนเสิร์ตการกุศล (วงมาลีฮวนนา) และดนตรีพื้นถิ่นมาร่วมแสดงให้ชม เพื่อเป็นการตอบแทนคุณผู้มีส่วนร่วมพัฒนา ศูนย์เรียนรู้ดาวล้อมเดือนกำแพงเพชรดังกล่าว
ด้านนายประจักสิน บึงมุม ผอ. โรงเรียนบ้านคลองเรือ ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ศูนย์ดาวล้อมเดือนแห่งนี้ อยู่ในพื้นที่ของโรงเรียนบ้านคลองเรือ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2554 โดยรองศาสตราจารย์ ดร.วิโรจน์ อิ่มพิทักษ์ และอดีตนายกสภามหาวิทยาลัยเกษตร ศาสตร์คนที่ 28 ที่เล็งเห็นว่าพื้นที่แห่งนี้ควรจะสร้างและพัฒนาให้เป็นประโยชน์ต่อชุมชน ที่มีการบริหารจัดการศูนย์ในรูปแบบของคณะกรรมการ มีการคัดเลือกประธาน กรรมการจากชาวบ้านในชุมชน ปัจจุบันกิจกรรมที่ได้ดำเนินการมีการปลูกผักพระราช ทานปลอดสารพิษเพื่อจำหน่ายในหมู่บ้านและนอกหมู่บ้าน มีการเลี้ยงวัวเพื่อนำมูลวัวมาทำปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมัก สำหรับบำรุงดินปลูกพืชปลอดสาร และจำหน่ายวัวเป็นรายได้พร้อมมีการเลี้ยงแพะพระ ราชทาน มีการเลี้ยงไก่ไข่และหมู พร้อมพืชเศรษฐกิจอีกหลากหลายภายในศูนย์เรียนรู้ดังกล่าว ซึ่งคาดว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นการนำงบประมาณมาต่อยอดสร้างศูนย์ให้มีความเข้มแข็งของชุมชนมากยิ่งขึ้นต่อไป.
Discussion about this post