วันนี้ (27 สิงหาคม 2566) เวลา 14.00 น. นายใบน้อย สุวรรณชาตรี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย ดร.วรวิทย์ จิรัฐิติเจริญ ผอ.กองส่งเสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ นำคณะผู้บริหารประกอบด้วย นางสาวหนึ่งหทัย ธรรมพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 9 นายวิเชียร ทองด้วง อุตสาหกรรมจัง หวัดระยอง น.ส.อังศุมาลิน ฉัตรสุวรรณวารี อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี น.ส.กาญจนา ทัพป้อม อุตสาหกรรมจังหวัดจันทบุรี และจนท.กรมส่งเสริมอุตสาห กรรม หรือ “ดีพร้อม” (DIPROM) ลงพื้นที่ จ.ระยอง เยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนส่งเสริมอาชีพผู้เลี้ยงชันโรงบ้านทับมา เป็นวิสาหกิจชุมชนที่มีการรวมกลุ่มจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2563 ปัจจุบันมีสมาชิก 45 คน มีรังชันโรง รวมทั้งสิ้น 300 รัง โดยเป็นชันโรงสายพันธุ์ขนเงิน ให้น้ำหวานและชันที่มีส่วนประกอบของสารฟลาโวนอยด์ (Flavo noid) ซึ่งเป็นสารช่วยต้านอนุมูลอิสระ โดยสารฟลาโวนอยด์ที่มีในผลิตภัณฑ์ของทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ จะอุดมไปด้วย แมงโกสทีน ฟลาโวนอยด์ (Mangosteen Flavo noid) ที่ได้จากเกสรของดอกมังคุด ซึ่งมีเฉพาะในพื้นที่เท่านั้น

สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้รับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงานของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ซึ่งได้นำแนวทาง ESG มาปรับใช้ในระดับวิสาหกิจชุมชน คือ ส่งเสริมให้เกิดรายได้ สร้างเครือข่ายความร่วมมือ ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน พร้อมต่อยอดสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อตอบโจทย์ BCG (Bio Economy, Circular Economy, Green Econo my) โดยมี SCGC ให้การสนับสนุนและถ่ายทอดองค์ความรู้ พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับชุมชนและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านต่อไป ซึ่งทำให้ธุรกิจที่โตแบบยั่งยืน
อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ให้การประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเป็นเครือข่าย Big Brothers หรือ เครือข่าย Social Enterprise ที่ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชนรายใหญ่เพื่อดูแลชุมชนและสิ่งแวด ล้อม ซึ่งได้มีการร่วมทำงานเพื่อชุมชนมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 7 ปี โดยในปีนี้มุ่งเป้าไปที่การเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรฟาร์มผึ้ง ผ่านการส่งเสริมการเลี้ยงผึ้งชันโรงที่มีคุณสมบัติพิเศษกว่าน้ำผึ้งชนิดอื่นและมีมูลค่ามากกว่าน้ำผึ้งทั่วไป เพื่อให้เกษตร กรได้ผลผลิตที่สามารถสร้างรายได้ตลอดทั้งปี
โดยนำงานวิจัยที่ได้รับการสนับ สนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) มาใช้ประโยชน์ภายใต้ความร่วมมือของสมาชิกเครือข่ายฯ พัฒนา การเพาะเลี้ยงและพัฒนาสูตรอาหารที่เหมาะสมกับผึ้งชันโรงในแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งปัจจัยสำคัญคือการเพิ่มคุณค่าของน้ำผึ้งชันโรงที่ผลิตได้ เพื่อให้มีคุณภาพและมูลค่าสูง ขยายผลไปสู่การผลิตสินค้าที่มีความหลากหลาย สำหรับผลิตภัณฑ์ของทางวิสาหกิจชุมชนส่งเสริมอาชีพผู้เลี้ยงชันโรงบ้านทับมา เป็นน้ำผึ้งชันโรงที่มีประโยชน์และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันและช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง มีสรรพ คุณทางยา มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ สมานแผล และช่วยบำรุงสมอง นอกจากจะได้น้ำผึ้งชันโรงเพื่อจำหน่ายแล้ว ทางกลุ่มฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสารสกัดพรอพอลิส (Propolis) และเกสรของผึ้งชัน โรง อาทิ สบู่ ยาหม่อง น้ำมันหอมระเหย ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เป็นต้น สร้างรายได้ให้กับวิสาหกิจชุมชนกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนต้นแบบที่น่ายก ย่องและเป็นแบบอย่างแก่วิสาหกิจชุมชนอื่น
อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวต่ออีกว่า หากวิสาหกิจชุมชนได้ต้องการประกอบอาชีพเลี้ยงชันโรงขอให้ลองมาที่วิสาหกิจชุมชนส่งเสริมอาชีพผู้เลี้ยงชันโรงบ้านทับมา จังหวัดระยอง หรือติดต่อมาที่อุตสาหกรรมจังหวัดในพื้นที่หรือกรมส่งเสริมอุตสาห กรรม เพื่อให้ข้อแนะนำและเป็นพี่เลี้ยงในการประ กอบอาชีพการเลี้ยงผึ้งชันโรงต่อไป.
Discussion about this post