วันที่ 30 สิงหาคม 2566 ที่บ้านหนองสังข์ อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม นางวิษา เจริญวัฒนานนท์ เป็นหัวหน้านำคณะกรรมการมูลนิธิศูนย์กลางประสานงานพัฒนาชนบท ลงพื้นที่เยี่ยมและตรวจประเมินให้คะแนนกลุ่มทอผ้าบ้านหนองสังข์ หมู่ที่ 1 เพื่อคัดเลือกเป็นหมู่บ้านหัตถกรรมเข้ารับรางวัล หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร รางวัล สร้างเสริมคนดี มีคุณธรรม ประจำปี 2566 โดยมีนายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ตลอดจนรักษาราชการแทนนายอำเภอนาแก ผู้แทนพัฒนาการจังหวัดนครพนม คณะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะผู้บริหารโรงเรียนในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนสมาชิกกลุ่มทอผ้าบ้านหนองสังข์ ร่วมให้การ ต้อนรับและบรรยายสรุปผลการดำเนินการ

นายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า วันนี้รู้สึกยินดีที่บ้านหนองสังข์ อำเภอนาแกได้เป็นตัวแทนจังหวัดนครพนมเข้ารับการพิจารณาคัดเลือกเป็นหมู่บ้านหัตถกรรมเข้ารับรางวัล หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร รางวัล สร้างเสริมคนดี มีคุณธรรม ประจำปี 2566 และขอต้อนรับคณะกรรมการมูลนิธิศูนย์กลางประสานงานพัฒนาชนบททุกท่านที่ได้เดินทางลงพื้นที่มาตรวจเยี่ยมและประเมินในครั้งนี้ ซึ่งกลุ่มทอผ้าบ้านหนองสังข์ได้รับรางวัลทั้งในระดับจังหวัดและระดับเขตอย่างมากมาย ที่สำคัญคือชาวบ้านได้มีการทอผ้าที่เป็นลายเอกลักษณ์เฉพาะของชาวไทกะเลิง ที่มีลักษณะพิเศษไม่เหมือนที่อื่น โดยช่วงหลังมากระทรวงมหาดไทย กรมพัฒนาชุมชนได้เข้ามารณรงค์การสวมใส่ผ้าไทยและรณรงค์ในการรักษ์โลกส่งเสริมให้ทางกลุ่มได้ทอผ้าด้วยการย้อมสีจากธรรมชาติจากเปลือกไม้และเศษวัสดุที่อยู่ในพื้นที่ถิ่นทำ ให้คนที่ใช้และโลกของเรามีความยั่งยืน ซึ่งตอนนี้กลุ่มกำลังพัฒนาให้มีความหลากหลายแต่ยังคงรักษาอัตลักษณ์ลายดั่งเดิมตั้งแต่บรรพบุรุษให้คงอยู่
ด้านนางนุชนาถ ปู่บุตรชา คณะกรรมการกลุ่มทอผ้าบ้านหนองสังข์ หมู่ที่ 1 กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มทอผ้าบ้านหนองสังข์เป็นหมู่บ้านวิถีชนเผ่าไทกะเลิง ที่นำอัตลักษณ์อันโดดเด่นมาพัฒนาชุมชน โดยมีการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวภายใต้สโลแกน ล่องเรือชมหนองสังข์ นั่งซาเล้งแยงวิถีไทกะเลิง เบิ่งผ้าโบราณจกหีแข้ ซี่งที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยกลุ่มทอผ้าบ้านหนองสังข์ หมู่ที่ 1 เกิดขึ้นมาจากเวทีประชาคมของหมู่บ้าน ที่ต้องการนำปัญหาที่มีในพื้นที่มาร่วมกันแก้ไข ซึ่งเป็น การนำเอาวิถีชีวิตการทอผ้าลายขิดโบราณที่ย้อมด้วยสีธรรมชาติและไม้มงคล อายุลายผ้ามากกว่า 100 ปี ที่สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นมาสร้างเป็นอาชีพ โดยผ้าทุกชิ้นจะทอด้วยเทคนิคการทอผ้าขิด ผ้ายกดอก ผ้ามัดหมี่ ที่แทรกด้วยลายจกหีแข้ และลายอื่นๆ ที่เลียนแบบมาจากธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อม ทำให้กลายเป็นอัตลักษณ์พื้นถิ่นที่โดดเด่นสวยงามแปลกตาไม่เหมือนใคร เช่น ลายมุก ลายพันมหา ลายพญานาค ลายพระธาตุ ลายดอกผักแว่น ลายขอน้อย ลายหอนกลอง ลายดอกมะส้าน ลายดอกตุ้ม ลายเต๋า ลายขอกุญแจ และลายดอกบัว ทั้งยังมีการประยุกต์ลายพระราชทาน ผสมผสานลายอัตลักษณ์พื้นถิ่นและลายเอกลักษณ์ของจังหวัดนครพนม มีการส่งเสริมให้เยาวชนคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นในการทอผ้าและออกแบบผ้าและเครื่องแต่งกายให้ทันสมัย สามารถสวมใส่ได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกโอกาส และส่งเสริมการขายผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อให้มีช่องทางการตลาดที่เพิ่มมาก เป็นการสืบสานภูมิปัญญาผ้าไทย ที่พร้อมสร้างงาน สร้างรายได้ให้ครอบครัว และสร้างชุมชนที่เข้มแข็งอย่างยั่งยืนจากการแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งมาสนับสนุนกิจกรรมชุมชน
นางวิษา เจริญวัฒนานนท์ เปิดเผยว่า มูลนิธิศูนย์กลางประสานงานพัฒนาชนบท ก่อตั้งขึ้นมาโดยหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ซึ่งได้รับพระราชทานทุนมาก่อตั้งจำนวนเงิน 1,000,000 ล้านบาท จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 โดยมุ่งเน้นการพัฒนาหมู่บ้านให้มีความเข้มแข็ง ด้านหัตถกรรมเพื่อเสริมรายได้ให้แก่ราษฎร โดยเป็นหัตถกรรม 5 ประ เภท ประกอบไปด้วย ผ้าและสิ่งทอ สิ่งประดิษฐ์ เครื่องปั้นดินเผา จักรสาน และเครื่องไม้ ซึ่งของบ้านหนองสังข์จะเป็นในประเภทผ้าและสิ่งทอ แต่พอได้เห็นแล้วพบว่าบ้านหนองสังข์ได้รับรางวัลเยอะมาก อีกทั้งฝีมือก็มีความสวยงามโดดเด่น ซึ่งหากได้รับรางวัลก็จะได้เข้าไปรับโล่รางวัลพระราชทานในวันที่ 18 ตุลาคม พร้อมทั้งทุนดำเนินการอีก 10,000 บาท รวมทั้งได้นำสินค้าไปจำหน่ายภายในงาน ก็หวังว่าเมื่อประเมินครบทั้ง 19 กลุ่มแล้วกลุ่มทอผ้าบ้านหนองสังข์จะได้เป็น 1 ใน 12 กลุ่มที่ได้เข้ารับรางวัลอันทรงคุณค่านี้.
Discussion about this post