พี่เขย คว้าท่อนไม้ทุบหัวน้องเขยในวงเหล้า สารภาพแค่สั่งสอน แต่สุดท้ายเสียชีวิต !!

วันที่ 7 ก.ย.2566 ร.ต.อ.คงฤทธิ์ พลศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.นครพนม พร้อมตำรวจชุดสืบสวนได้คุมตัวนายสันติ อายุ 50 ปี ชาว บ.คำธาตุ หมู่ 8 ต.หนองญาติ อ.เมือง ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้ไม้ทุบศีรษะนายดาว อายุ 46 ปี น้องเขย เสียชีวิตที่ร้านตัดผมแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ก.ย.66

นางอรทัย วัย 40 ปีภรรยานายดาว ผู้ตาย เล่าว่า ก่อนเหตุตนอยู่งานศพในหมู่บ้าน สามีและนายสันติ พี่เขย ชักชวนกันไปดื่มเหล้า โดยก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยมีเรื่องทะเลาะบาดหมางกันบ่อยครั้งอยู่แล้ว โดยสามีหลังดื่มกินกับพี่เขย ได้มาตั้งวงร่วมดื่มกันต่อกับกลุ่มเพื่อนและญาติ 4-5 คนที่ร้านตัดผมตรงข้ามบ้าน ญาติ เล่าให้ฟังว่า นายสันติฯ พี่เขยได้เดินเข้าไปในวงเหล้าขณะสามีกำลังนั่งดื่ม พี่เขยใช้ท่อนไม้ยาวประมาณ 1.5 เมตร ฟาดลงที่ท้ายทอยสามีจนบวมเป่ง คิดว่าไม่เป็นอะไรจึงกลับบ้านเข้านอนตามปกติ ช่วงค่ำสามีมึนศีรษะมีอาการคล้ายคนเมานอนลุกไม่ขึ้น จึงแจ้งรถกู้ชีพ อบต.หนองญาติ นำตัวส่งรักษาที่ รพ.นครพนม

จนกระทั่งวันที่ 5 ก.ย.66 สามีได้เสียชีวิตลง แพทย์ระบุว่ามีเลือดคลั่งในสมอง เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย แม้นายสันติจะเป็นพี่เขยและเป็นญาติกัน ก็ไม่น่าจะหยอกล้อใช้ไม้ทุบตีสามีจนถึงแก่ชีวิต จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย ให้ถึงที่สุด

นายสันติ ผู้ก่อเหตุ รับสารภาพว่า วันเกิดเหตุได้ชักชวนนายสันติ น้องเขย ชวนกันไปดื่มเหล้าที่ร้านค้าในหมู่บ้าน พอน้องเขยเหล้าเข้าปากก็มักจะหาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับตนหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ด้วยความเมาจึงคว้าไม้ค้อนไปทุบที่ท้ายทอย 1 ครั้งหวังแค่จะสั่งสอน แต่ไม่คิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไรมาก ผ่านมา 5 วันญาติแจ้งว่านายสันติฯ น้องเขยเสียชีวิตที่ รพ.นครพนม เสียใจสำนึกผิดและถือเป็นอุธาหรณ์ในวงเหล้า หลังก่อเหตุก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อชดใช้ความผิดที่ก่อขึ้นด้วยความขาดสติ

ด้าน ร.ต.อ.คงฤทธิ์ ได้สอบพยานไปแล้ว 3-4 ปาก พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานจนแน่ชัด ก่อนนำตัวนายสันติ ผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหาทะเลาะวิวาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยวันนี้จะได้นำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดนครพนม.