จากกรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ ปกครอง ตำรวจ กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ สนธิกำลังจับคาหนังคาเขา 6 ผู้ต้องหามอดไม้ บุกตัดไม้ประดู่ป่า บนที่ดิน ส.ป.ก. ในพื้นที่ ต.นาขาม อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬ สินธุ์ อายุ 60-80 จำนวน 44 ไร่ จนเหี้ยนเตียน 38 ต้น ถูกหั่น 72 ท่อน หลายท่อนขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์ กลาง 125 ซม. ยึดรถเครน รถบรรทุกไม้ เลื่อยโซ่ยนต์ ขณะที่นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ. กาฬสินธุ์ และนายธวัชชัย รอดงาม รองผวจ.กาฬสินธุ์ ลุยตรวจสอบความเสียหาย และสั่งห้ามประกัน ตั้งธงสอบขยายผลเครือข่ายนายทุนตัดไม้พะยูง ด้านตำรวจแจ้งข้อหาหนักผิด พ.ร.บ. ป่าไม้ ดำเนินคดีอาญา ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
วันที่ 11 ก.ย.66 พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬ สินธุ์ กล่าวว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมกันตรวจยึดไม้ของกลาง รถบรรทุก รถเครน เลื่อยยนต์ และผู้ต้องหา ในคดีลักลอบตัดไม้ประดู่ ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามในที่ดิน ส.ปก. ในเขต อ.กุฉินารายณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดรถพร้อมของกลางและเก็บรักษาไว้แล้ว ที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าไม้ ที่ กส.5 (บัวขาว) ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน พนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ ได้นำตัวฝากขังที่ศาลกาฬ สินธุ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ ทางตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ มีแนวทางเดียวกับนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ ในการคัดค้านประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดในชั้นพนักงานสอบสวน และชั้นศาล
“เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน เป็นกลุ่มพ่อค้าไม้จาก จ.ขอนแก่นและ จ.อุดรธานี ก่อนหน้าเคยเข้ามาเคลื่อนไหว ซื้อขายไม้ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่อ้าวว่ามาซื้อไม้ในที่ดินของเอกชน รับซื้อทั้งไม้พะยูง ไม้ประดู่ รวมไปถึงไม้หวงห้าม แต่ยังปิดปากที่จะพูดถึง ต้นไม้พะยูงตามโรงเรียนในพื้นที่ สำนักงานเขตการศึกษาพื้นที่การประถมศึกษา เขต 2 ซึ่งเกิดปัญหาการประมูลไม้ขายตามโรงเรียนโดยใช้ระเบียบพัสดุของกรมธนารักษ์ กับคดีการขโมยไม้ของกลาง เหตุเกิดหน้าเสาธง สำนัก งานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยาง ตลาด ซึ่ง ปปช.จ.กาฬสินธุ์ และ ปปท.จ.ขอนแก่น กำลังดำเนินการตรวจสอบและสอบสวนอยู่”
พล.ต.ต.สุวรรณ์ กล่าวว่า การเข้ามาตัดที่ดิน ส.ป.ก. ท้องที่ อ.กุฉินารายณ์ ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เกรงกลัวกฏหมาย ทั้งที่ จังหวัดกาฬ สินธุ์ ทุกภาพส่วนนำ จนท.ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และหน่วยงานทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำลังดำเนินการติดตามตรวจสอบปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูง ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2566 เป็นต้นมา แต่ก็ยังกล้าเข้ามาตัด ขณะนี้ได้กำชับให้ พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี สภ.กุฉินารายณ์ ทำการสอบสวนอย่างละเอียก ซึ่งตนได้สั่งการให้ ผู้กำกับการกองสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าร่วมสอบปากคำ เพื่อดำเนินการขยายผลไปสู่เครือข่าย ที่มีความเชื่อมโยงกับพ่อค้าไม้พะยูงที่เข้ามาอาละ วาดในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์อย่างเต็มที่
ขณะที่นายอดิสร คงสมกัน หัว หน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้กาฬสินธุ์ กล่าวว่า กรณีที่มีเหตุลักลอบตัดไม้พะยูง ไม้ประดู่ รวมทั้งการอนุญาตตัดไม้ในโรงเรียนหลายแห่ง ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และหลายจังหวัด จากการติดตามพฤติกรรมเชื่อว่ามีใบสั่งจากนายทุนจีน ทั้งนี้ ล่าสุดจากการตรวจยึดของกลางและจับได้ผู้ต้องหา 6 ราย ที่เข้ามาก่อเหตุในที่ ส.ป.ก.ใน ต.นาขาม อ.กุฉินารายณ์ พบว่าผู้ต้องหาเป็นชาว จ.ขอนแก่น และชาว จ.อุดรธานี โดยปลายทางที่จะขนย้ายไม้ไปอยู่ที่ จ.อุดรธานี ซึ่งกลุ่มลักลอบตัดไม้ในภาคอีสาน มีหลายกลุ่ม แบ่งออกเป็น 2 สาย คือสายไม้พะยูง และสายไม้ประดู่ ซึ่งทั้ง 2 สายเชื่อมโยงถึงนายทุนจีน โดยจะมีนายหน้าเป็นคนในพื้นที่และใกล้เคียง เข้ามาติดต่อซื้อไม้ และมีพ่อค้าคนกลางซึ่งเป็นคนไทย นำไปส่งต่อให้กับพ่อค้าชาวจีนแถบจังหวัดชายแดน ที่กำลังถูกเจ้าหน้าที่กดดันจึงหันมาตัดไม้ประดู่ป่าแทน สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ส.ป.ก.ครั้งนี้ ทราบว่าก่อนที่จะเกิดเหตุ ชาวบ้านที่ได้รับสิทธิ์ทำกินเคยขออนุญาตตัดขายมาแล้ว แต่ทางราชการไม่อนุญาต เนื่องจากเป็นไม้หวงห้าม กระทั่งมีนายหน้าเข้ามาติดต่อขอซื้อ 38 ต้น ในราคา 350,000 บาท จึงเกิดการลักลอบตัด เพราะรู้ทั้งรู้ว่าไม่อนุญาตแต่ยังกล้าแสดงว่าไม่เกรงกลัวกฏหมาย หรือ กลุ่มตัดไม้กลุ่มนี้จะต้องได้รับเงินค่าจ้างมาแล้วจึงจำเป็นที่จะต้องหาไม้ส่งให้ได้ ทั้งนี้ หากประเมินขายตามราคามาตรฐานกรมป่าไม้ ราคาไม้ประดู่ที่ถูกตัดทั้งหมดจะมีราคาในประเทศ สูงถึง 1,500,000 บาท แต่หากสาสามารถส่งออกต่างประเทศจะมีราคาสูงขึ้นอีก 5-10 เท่า เมื่อมีการแปรรูป
ด้านนางรวงทิพย์ วิเชยละ ปฏิรูปที่ดิน จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งเหตุตัดไม้ประดู่ในที่ ส.ป.ก.ต.นาขาม อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานต่อเลขาธิการ ส.ปก.ส่วนกลางแล้ว โดยตรวจพบว่าเป็นการตัดในพื้นที่ ส.ปก. จริง ซึ่งที่ดินดังกล่าวได้จัดสรรให้ครอบครัว นายประยูร สุขปัญญา ราษฎรบ้านนาขาม หมู่ 2 ต.นาขาม จำนวน 44 ไร่ 1 งาน เพื่อประโยชน์ทำกินด้านการเกษตร ทำนา ทำสวน ทำไร่ แต่เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ ถือเป็นความการกระทำผิดเงื่อนไข ส.ป.ก. จ.กาฬสินธุ์ ได้ทำรายงานส่งต่อไปยัง คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม นำการพิจารณาเรื่องเพื่อให้ถอดสิทธิ์ในที่ดินทำกินต่อไป
ด้านนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในการป้องกันปราบปรามขบวนการตัดไม้ ทางจังหวัดมีคำสั่งถึงนายอำเภอทุกอำเภอ ผู้บริการท้องถิ่นทุกแห่ง ตลอดจนส่วนราชการ ประชาชน ในการร่วมเป็นหูเป็นตา เป็นเครือข่ายเฝ้าระวัง เพื่อปกปักรักษาทรัพยากรป่าไม้ และกวาด ล้างขบวนการมอดไม้ รวมทั้งผู้มีอิทธิพลให้หมดสิ้นไป ตามนโยบายรัฐบาล ทั้งนี้ ในส่วนการตัดไม้ในที่ สปก.ใน ต.นาขาม อ.กุฉินารายณ์ ก็ได้รับแจ้งเบาะแสจากเครือข่าย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทางราชการเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ในทางการสืบสวนสอบสวน หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง จะดำเนินคดีทางวินัย ทางแพ่ง และทางอาญาอย่างเด็ดขาด ไม่มีเลี้ยงแน่นอน
สำหรับปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูง เริ่มต้นขึ้นจากกรณี ไม้พะยูงของกลาง 7 ท่อน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หายไปจากสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ อย่างไร้ร่องรอย เมื่อช่วงคืนวันที่ 5 ส.ค.66 ผลสอบ สวนมีบุคคลของรัฐเข้าไปเกี่ยว ข้อง 8 ราย ต่อมาตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2566 พบปัญหาการตัดไม้พะยูงในโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ที่ให้นายหน้าเข้ามาตัดไม้พะยูงภายในโรงเรียนถึง 22 ต้น กับอีก 2 ตอ ราคา 153,000 บาท ที่อ้างระเบียบพัสดุของกรมธนารักษ์ โดยเรื่องนี้ จังหวัดได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.- ส.ต.ง.-ป.ป.ท. เอาผิดทางวินัย แพ่ง อาญา ล่าสุด ป.ป.ช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ ตั้งคณะไต่สวนจัดชุดใหญ่ ตรวจสำนวนตำรวจ จากนั้น ชาวบ้านที่รักษ์ผืนป่าทยอยส่งหลักฐาน การประมูลไม้พะยูงตามโรงเรียนในเขต สพป.เขต 2 หลายแห่ง โดยปรากฏ ที่โรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี โรงเรียนหนองโนวิทยาคม อ.ห้วยเม็ก และที่โรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก มีการนำหลักฐานกล้องวงจรปิดจับภาพชายฉกรรจ์ 7 คน เข้าไปเจาะดูแก่นไม้พะยูง ภายในโรงเรียนโคกกลางเหนือพิทยา อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ และล่าสุด ยังเกิดเหตุคนร้าย 5 คนอาวุธครบมือ ลอบตัดไม้พะยูงในโรงเรียนบ้านโนนศิลาสว่างวิทย์ หน้าบ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านอย่างอุกอาจ กับการออกมาปฏิเสธของ อธิบดีกรมธนารักษ์ ว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ไปเกี่ยวข้อง แต่หากเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการทางวินัยร้ายแรง ซึ่งทางจังหวัดก็ได้รวบรวมหลักฐานสำคัญส่งไปยัง อธิบดีกรมธนารักษ์เพื่อพิสูจน์ความจริง จนมามีกลุ่มพ่อค้าไม้เข้ามาลักตัดไม้ประดู่อายุกว่า 80 ปี ในพื้นที่ ส.ป.ก. เขต อ.กุฉินารายณ์ กำลังผสม ทุกฝ่ายสามารถจับตัวผู้ต้องหา ได้ 6 คน พร้อมเครื่องมือ รถบรรทุก รถเครน ที่กำลังดำเนินการขยายผลจับกุมเครือข่ายผู้มีอิทธิพลทั้งหมดตามนโยบายรัฐบาลของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย.
Discussion about this post