ตม.มุกดาหาร ตัดรากถอนโคนขยายผลจับกุมขบวนการขนคนจีนข้ามชาติ

มุกดาหาร – ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ. ตร. สั่งการให้ สตม.สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับ กุมคนไทยที่นำพาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวเข้าก่อเหตุ และการใช้ประ เทศไทยเป็นทางผ่านในการกระทำความผิดเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือการพนันออนไลน์

วันที 12 ก ย.66 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. , พล.ต.ต.สรร พูลศิริ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต. พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.4, พล.ต.ต.ชัชชัย วงค์สุนะ ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร , พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.มณุวัฒน์ กอสนาน รอง ผบก.ตม.4 ,พ.ต.อ.นพดล รักชาติ ผกก.ตม.จว.มุกดาหาร , พ.ต.อ.สำราญ กลั่นมา ผกก.สส.บก.ตม.4, พ.ต.ท.ธนูศิลป์ ดวงแก้วงาม รอง ผกก.ตม.จว.มุกดาหาร ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้

เนื่องจากวันที่ 11 ก.ย.66 ตม.จว.มุกดาหาร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส. บก.ตม.4 ได้เข้าจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย (ระดับสั่งการ ขบวนการขนคนจีนข้ามชาติในพื้นที่ จว.มุกดา หาร) คือ นายกอบชัยฯ อายุ 43 ปี ตามหมายจับ ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.384/ 2566 ลงวันที่ 8 ก.ย.66 และนางกมลวรรณฯ อายุ 31 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.385/2566 ลงวันที่ 8 ก.ย.66 ในความผิดฐาน “ร่วมกันนำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักร รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ให้ที่พักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” โดยมีพฤติการณ์สืบเนื่อง ดังนี้

1. เมื่อวันที่ 22 มี.ค.66 ตม.มุกดาหาร ได้จับ กุม นายวรพจน์ฯ 48 ปี สัญชาติไทย ข้อหา “ช่วยเหลือ ซ่อนเร้นฯ คนต่างด้าวให้พ้นจากการจับ กุม” พร้อมคนจีนจำนวน 5 ราย ไม่มีหนังสือเดิน ทางติดตัว ในข้อหา “ เป็นคนต่างด้าวเดินทางและเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต(หรือหลบหนีเข้าเมืองฯ) ” ณ ที่ท่าริมแม่น้ำโขงบ้านเหล่าล้อม ม.4 ต.นาสีนวน อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร ให้การว่าหลบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งในคดีนี้ เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับคดีอื่นๆ มีการเก็บพยานหลักฐานและพบความเชื่อมโยงไปยังคดีอื่นๆ จนนำไปสู่การจับกุมเพิ่มเติมและเตรียมออกหมายจับอีกหลายราย
2. เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.66 ที่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬ สินธุ์ จับกุม คนจีน 3 ราย ไม่มีหนังสือเดิน ทางติดตัว ในข้อหา เป็นคนต่างด้าวเดินทางและเข้ามาอยู่ในราชอาณา จักรโดยไม่ได้รับอนุญาต (หรือหลบหนีเข้าเมืองฯ) ให้การว่าถูกบังคับมาจากประเทศจีน ถูกพาตัวมาผ่านทางประเทศเวียดนาม มาที่ประเทศลาว และเมื่อถึงประเทศ ไทย ยังไม่ได้ไปถึงประเทศเมียนมาร์ ได้สบโอกาสหลบหนีจากรถยนต์ของคนที่ขนมา เข้าขอความช่วยเหลือกับชาวบ้าน คดีนี้จากการรวบ รวมพยานหลักฐานพบเส้นทางการเงิน เตรียมออกหมายจับผู้นำพาฯ
3. เมื่อวันที่ 15 ก.ค.66 ที่ อ.คลองขลุง จ.กำแพง เพชร จับกุมนายธวัชชัยฯ อายุ 29 ปี ในข้อหา
   “ ช่วยเหลือ ซ่อนเร้นฯ คนต่างด้าวให้พ้นจากการจับกุม“ พร้อมคนจีนจำนวน 5 ราย ไม่มีหนังสือ เดินทางติดตัว ในข้อหา “ เป็นคนต่างด้าวเดินทางและเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต(หรือหลบหนีเข้าเมืองฯ) ให้การว่า ทั้ง 5 คน ไม่รู้จักกันมาก่อน ถูกหลอกลวงผ่านเว็บไซต์จัดหางานในประ เทศจีน และเมื่อนัดพบกับเอเจนซี่ไม่ทราบชื่อที่ประเทศจีน บางส่วนถูกมอมยาและถูกบังคับพามายังชายแดนประเทศไทย และข้ามมา ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยเข้าทำการตรวจค้นจับกุม โดยในคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติด ตามคนร้ายตั้งแต่สับเปลี่ยนรถกันที่อ.วังน้อยจนสามารถจับกุมทีมขนคนขาขึ้น ของ อ.แม่ สอดได้ที่ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร และจากการรวบรวมพยานหลักฐาน พบภาพกล้องวงจร ปิด ข้อมูลการติดต่อทางโทรศัพท์ที่ตรวจยึดได้ เตรียมออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิดในคดีนี้เพิ่มเติม
4. เมื่อวันที่ 1 ส.ค.66 ที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรี อยุธยา จับกุมนายนนทวัฒน์ฯ อายุ 27 ปี และนายอชิรวิทย์ฯ อายุ 21 ปี ข้อหา ร่วมกันช่วยเหลือ ซ่อนเร้นฯ คนต่างด้าวให้พ้นจากการจับกุม พร้อมคนจีนจำนวน 5 ราย ไม่มีหนังสือเดินทางติดตัว ในข้อหา เป็นคนต่างด้าวเดินทางและเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต (หรือหลบหนีเข้าเมืองฯ) ให้การว่า ถูกหลอกให้มาทำ งานที่บ่อนกาสิโนประเทศเมียนมาร์ ถูกพามาและเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมายจนถูกจับกุม ในคดีนี้จากการรวบรวมพยานหลักฐาน พบความเชื่อโยงทางการเงินและทางโทรศัพท์ชัดเจน เตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม

จากการสืบสวนขยายผล พบว่าระดับสั่งการ ขบวนการขนคนจีนในพื้นที่มุกดาหาร ตามข้อ 1. – 4 พบว่ามีข้อมูลความเชื่อมโยงและคนสั่งการ เป็นคนเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมราย งานสืบสวนฯ ส่งมอบให้กับ สภ.กุฉินารายณ์ จว.กาฬสินธุ์ เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ และนำมาซึ่งการจับกุมคนสั่งการทั้ง 2 รายดังกล่าว และส่ง สภ.กุฉินารายณ์ จว.กาฬ สินธุ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ // มุกดาหาร