
วันที่ 16 กันยายน 2566 นายทีปอุทัย แสนกาศ ผู้บริหารพิพิธภัณฑ์ศิลปะพระพิมพ์โบราณหริภุญชัย อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ในฐานะนักประวัติศาสตร์งานศิลป์และโบราณคดีอิสระ เผยกรณีเกิดเพลิงไหม้วิหารวัดท่าเดื่อ หมู่ 6 ต.สันผีเสื้อ อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 13 กันยายนหรือ 3 วัน ที่ผ่านมาว่า ขอตั้งข้อสังเกต วัดดังกล่าว มีอายุกว่า 700 ปี เป็นที่ประดิษฐสถานพระพุทธรูปพระเจ้าแสนแซ่ พระพุทธรูปเก่าแก่ ที่อัญเชิญมาจากเวียงกุมกาม นครใต้พิภพ ซึ่งพระพุทธรูปดังกล่าว อาจขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุ หรือโบราณสถานแล้ว แต่เหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว ยังไม่มีเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบ และหาหลักฐานว่าเพลิงไหม้ เกิดจากสาเหตุใด เพื่อป้องกันและประเมินความเสีย
หายดังกล่าว ก่อนบูรณปฏิสังขรณ์ตามลำดับ
“อยากเรียกร้องกรมศิลปากร สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบหาสาเหตุ และประเมินความเสียหายดังกล่าว ถ้าเกิดจากความประมาทเลินเล่อ ต้องมีผู้รับผิดชอบเรื่องดังกล่าว ไม่ใช่หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ เพียง 8-9 ชั่วโมง เปิดเพจรับบริจาค เพื่อบูรณะวิหารและพระพุทธรูปดังกล่าวทันที เนื่องจากเกิดความเสียหายต่อโบราณสถาน อาทิ หลังคาวิหารภาพวาดจิตรกรรมฝาผนัง ธรรมาสน์ และข้าวของเครื่องใช้หลายรายการ ดังนั้นต้องตรวจ
สอบรายละเอียด และวางแผนบูรณะเป็นขั้นตอน ตามหลักวิชาการเนื่องจากไม่ได้กันพื้นที่ตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์หลักฐานหาสาเหตุ แต่ไปเปิดรับบริจาคบูรณะกันเอง อาจส่งผลกระทบต่อโบราณสถาน และโบราณวัตถุได้ ทำให้คุณค่าทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีลดลงตามไปด้วย” นายทีปอุทัย
นายทีปอุทัย กล่าวว่าส่วนตัว ไม่เห็นด้วยกับการเปิดรับบริจาค เพื่อบูรณะวิหารทันทีควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมวางแผนบูรณะ มีเจ้าหน้าที่โบราณสถานควบคุมดูแล ไม่ใช่ให้วัดบูรณะ เพียงฝ่ายเดียว เพื่อป้องกันความเสียหายภายหลังได้ เพื่อรักษาสภาพโบราณสถาน และทรงคุณค่าตามเดิมเป็นมรดกของชาวเชียงใหม่สืบไป
“อยากเรียกร้องนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ที่มาตรวจราชการที่เชียงใหม่ ให้ความสำคัญต่อโบราณสถาน และโบราณวัตถุดังกล่าว เพราะเป็นซอฟท์เพาวเวอร์ หรือจุดขายท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตชุมขนได้ รวมทั้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้มงวดตรวจสอบการประพฤติปฏิบัติพระสงฆ์ที่ออกนอกลู่นอกทาง หรืออลัชชี ที่ใช้ศาสนา หากินโดยมิชอบ เพื่อปกป้องและจรรโลงพระพุทธศาสนาตามหลักคำสอนของสัมมา
สัมพระพุทธเจ้าต่อไป” นายทีปอุทัย กล่าว
Discussion about this post