
เมื่อวันที่ 18 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ ที่บ้านเลขที่ 211 หมู่ 3 บ้านโนนจาน ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีผู้ใจบุญเสียสละทรัพย์สินเงินทองส่วนตัวทุ่มเลี้ยงสุนัขจรจัด กว่า 50 ตัว ไปพบกับ น.ส.ปูริดา เพียการุณ หรือป้าอ๋อย อายุ 57 ปี เจ้าของบ้าน กำลังเตรียมอาหาร เลี้ยงสุนัข ซึ่งไม่ใช่เฉพาะสุนัขที่อยู่ภายในบ้านเท่า นั้น ยังเผื่ออาหารไปเลี้ยงสุนัขที่อยู่ในป่า ที่มีคนนำใส่กระสอบมาปล่อยทิ้งอีกหลายสิบตัว และยังมีอีกส่วนหนึ่งอาศัยอยู่ที่วัด
ป้าอ๋อย เล่าว่า ตนเป็นโสด ไม่มีสามีและลูก ประกอบอาชีพค้าขาย บางวันก็ต้มข้าวโพด บางวันก็ปลอกสับปะรดภูแล ขับรถจักยรยานยนต์พ่วงข้างเข้าไปเร่ขายในเมือง รายได้ประมาณวันละ 500 -1,000 บาท สุนัขที่เห็นอยู่นี้ ส่วนใหญ่เป็นสุนัขจรที่มีชาวบ้านจากหมู่บ้านชุมชนอื่น นำมาปล่อยทิ้งไว้ในป่า เนื่องจากหมู่บ้านของตนมีพื้นที่ป่าหลายร้อยไร่ เมื่อนำมาปล่อยแล้ว ก็ไม่มีใครดูแล พระที่วัดก็ดูแลไม่ไหว สุนัขเหล่านี้ จึงไปหาคุ้ยขยะ สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก
บางตัวก็ผอมโซ บางตัวก็พิการ ตนเห็นแล้วรู้สึกสงสาร จึงยอมเสียสละเงินที่ตนค้าขายมา มาดูแลรักษา และซื้ออาหารเลี้ยงพวกเขา วันละ 500-700 บาท บางวันขายของไม่ได้ มีเท่าไหร่ก็เอาไปซื้ออาหารให้สุนัขหมด เพราะตนคิดว่าคนหากินเองได้ หิวก็รู้จักขอ ไม่มีก็รู้จักหา ไม่เหมือนสุนัขร้องขอไม่เป็น ส่วนอาหารที่นำมาเลี้ยงสุนัขก็คือ เนื้อไก่ โครงไก่ โครงกระดูก ต้มกับข้าว ตะไคร้ เอามาให้กิน วันๆหนึ่งต้องใช้ข้าวเลี้ยงสุนัขถึงวันละ 10 กิโลกรัม ถึงจะพอกิน
สาเหตุที่ทำแบบนี้เพราะตนสงสารสุนัข ตนคิดว่าสนุขเขาก็มีค่า คนเราก็มีค่า สุนัขจรจัด ก็มีค่า แต่เสียตรงที่เขาพูดไม่เป็นก็เท่านั้น สุนัขเขาก็มีหิวเหมือนเรา เขาก็มีเจ็บป่วยเหมือนเรา แต่เขาพูดบอกเราไม่ได้ ขนาดคนขอทาน เขามีปากเขาก็พูดบอกว่าหิว เจ็บป่วย เขาก็พูดได้ แต่นี้สุนัข เขาไม่สามารถพูดบอกเราได้เลย ส่วนเรื่องชาวบ้าน เพื่อนบ้านบ่นด่าบ้างไหม มันก็มีบ้าง แต่เขาก็เข้าใจ เพราะที่ตนเลี้ยงสุนัขนั้น สุนัขพวกนี้ก็ไม่ได้ไปสร้างความลำบากให้ใคร ไม่ได้ไปบ้านใคร เพราะตนให้กินอิ่มทุกตัว
สิ่งที่เป็นห่วงที่สุดคือเรื่องของการแพร่พันธุ์สุนัข อยากวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือทำหมันสุนัขเหล่านี้ เพื่อไม่ให้ไปแพร่พันธุ์สร้างความเดือนร้อนมากกว่านี้ และจะเป็นปัญหาสังคมในอนาคต ซึ่งที่ทำแบบนี้ทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าอยากทำนะ อยากจะหยุดเหมือนกัน เพราะว่ามันเหนื่อย แต่พอมานั่งดูสุนัขเหล่านี้แล้ว ตนก็อดสงสารไม่ได้เลย คงต้องทำไปจนกว่าจะตายจากกัน.
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน
Discussion about this post