
วันที่ 18 กันยายน 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชาวนาชาวสวน ม.1ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี หลายร้อยไร่ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนักติดต่อกันมาหลายวันจนน้ำจากคลองชลประทานที่11 เอ่อล้นเข้าท่วมนาข้าวและสวนพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายหลายร้อยไร่

โดยชาวนาได้ร่วมรวบเงินในการนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่นำมาเพื่อสูบน้ำออกจากสวนและนาข้าวอย่างเร่งด่วนแล้ว ในขณะที่ขาวบ้านอีกจำนวนมากได้ไปได้ขนกระสอบทรายที่ทาง อบต.บึงกาสาม ที่จัดเตรียมเอาไว้สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำที่เอ่อเข้าท่วมภายในที่อยู่อาศัย
จากการสอบถามนางสาววันเพ็ญ แจ้งกระจ่าง เจ้าของสวนมีพื้นที่กว่า 50ไร่ หมู่1 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี กล่าวว่าเนื่องจากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในคลองชลประทานที่11 มีปริมาณมากจนกระทั่งเอ่อเข้าท่วมพื้นที่สวนและนาข้าวเป็นจำนวนมากซึ่งชาวนาและชาวสวนโดยรอบพื้นที่บริเวณดังกล่าวนี้รวมแล้วหลาย 100 ไร่ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน

ด้านนายสมพงษ์ ไกรสอน เจ้าของสวนตะไคร้ กว่า 50 ไร่ อยู่หมู่ที่ 1 บึงกาสาม ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ได้เข้ามาขอความช่วยเหลือจากทาง อบต.บึงกาสาม ในเรื่องกระสอบทราย เพื่อนำไปปิดกั้นทางระบายน้ำที่เริ่มเข้าท่วมพื้นที่ไร่ตะไคร้ เนื่องจากปริมารฝนที่ตกมาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่นายไพศาล ศรีธเนศสกุล นายก อบต.บึงกาสาม กล่าวว่าปริมาณน้ำในพื้นที่ต.บึงกาสาม อยู่ในระดับที่ควบคุมได้อยู่ ทางอบต.บึงกาสามได้เร่งระบายน้ำ และเข้าตรวจพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ด้านการเกษตร และทางอบต. บึงกาสามได้เร่งนำกระสอบทรายไปสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ใกล้คลองชลประทานแล้ว ตนเองนั้นอยากฝากหน่วยงานกรมชลประทานให้ช่วยเร่งระบายน้ำในคลองชลประทาน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ด้วย
ณรงค์ศักดิ์ น้ำจันทร์ // รายงาน
Discussion about this post