เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 19 ก.ย.66 ร.ต.อ.ณัฐพล เพียรพิทักษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถจยย.ล้มเอง จนมีนักเรียนชายชั้น ม.1 เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย บริเวณโค้งซอยบ้านเตาปูน 8 หมู่ 4 ต.บ้านไร่ อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังรับแจ้งเหตุจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวรรพ.ราชบุรี และจนท.มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ ราชบุรี
ที่เกิดเหตุพบรถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า เวฟไอ สีแดง ทะเบียน 1 กฮ 352 ราชบุรี ล้มคว่ำบนเกาะกลางถนน ชิ้นส่วนรถกระจัดกระจายไปคนละทิศทาง ใกล้บนเกาะกลางถนนพบร่างเด็กนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี นอนคว่ำหน้าชีวิตในสภาพสวมใส่เสื้อนักเรียน ทราบชื่อต่อมาคือ ด.ช.ชนาธิป มีสมยุทธ์ อายุ 13 ปี ชาวต.คุ้งกระถิน อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยสภาพศพกระดูกหักผิดรูปทั่วทั้งตัว และมีแบดแผลฉกรรจ์ตามร่างกายหลายแห่ง นอกจากนี้ยังพบหมวกกันน๊อคและกระเป๋านักเรียน ตกอยู่ที่พื้นถนน ใกล้ศพยังพบเสาปูนบอกสัญญาณทางเลี้ยว และเสาไฟแตกหักจนงอพังเสียหาย

ซึ่งขณะเกิดเหตุพ่อและแม่ของน้องได้เดินทางมาดูศพ เมื่อเห็นศพได้กอดร่างของน้องจนเป็นลม จนท.มูลนิธิฯต้องเร่งปฐมพยาบาล ส่วนพ่อของน้องให้ข้อมูลว่า ลูกชายขับรถจยย.ไปกลับโรงเรียนโดยใช้เส้นทางบ้านคุ้งกระถิน แต่วันนี้ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมลูกชายขับรถมาเส้นทางนี้ ลูกชายเป็นเด็กขยันช่วงวันเสาร์อาทิตย์จะทำงานพิเศษ ช่วยตนทำงานโดยเอารายได้ที่ได้จากการทำงานเอาเป็นค่าใช้จ่ายที่โรงเรียน โดยไม่เคยขอเงินจากพ่อแม่ ที่ผ่านมาเคยมีพระทักไว้ว่า “น้องจะมีอายุไม่ถึง 20 ปี ให้ไปทำบุญเยอะๆ” ตนก็พยายามพาไปทำบุญ และไม่คิดว่าน้องจะไปเร็วขนาดนี้
ขณะที่พื่อนรุ่นพี่ให้ข้อมูลว่า หลังเลิกเรียนได้ชวนกับไปหาเพื่อนที่เรียนอยูในอ.วัดเพลง ซึ่งเป็นเขตรอยต่อ โดยน้องที่เสียชีวิตได้ขับรถนำหน้ามาคนเดียว จนมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งก็พบร่างของน้องนอนอยู่เกาะกลางถนน จนรีบลงไปช่วยเหลือโดยมีชาวบ้านในพื้นที่โทรแจ้งจนท.ตำรวจ แต่พบว่าน้องได้เสียชีวิตแล้ว
ขณะเดียวน.ส.พิราวรรณ กลิ่นชะนะ อายุ 32 ปี คนเห็นเหตุการณ์เล่าว่า ตอนนั้นเธอได้ยินเสียงดังโครม จึงวิ่งออกมาดูก็เห็นรถจยย.จอดคว่ำอยู่บนเกาะกลาง และเห็นคนนอนอยู่บนเกาะกลางแล้ว พอเดินเข้าไปดูก็เห็นว่าเป็นนักเรียนและเสียชีวิตแล้ว เธอจึงรีบโทรแจ้งจนท.ตำรวจ ซึ่งบริเวณโค้งดังกล่าวเคยเกิดอุบัติเหตุจนมีคนเสียชีวิตมาแล้วเมื่อต้นปี อยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาติดตั้งป้ายหรือสัญญาณเตือน เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุ
เบื้องต้นจนท.ตำรวจได้ทำบันทึกที่เกิดเหตุ เพื่อประกอบสำนวนคดี ก่อนนำร่างของน้องส่งชันสูตรทีศูนย์นิติเวชรพ.ราชบุรี ก่อนมอบร่างของน้องให้ทางญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ ถึงผู้ปกครองให้คอยเตือนน้องๆนักเรียนไม่ให้ขับขี่รถเร็ว เพราะที่ผ่านมาทางจนท.ได้พยายามกวดขันบังคับให้น้องๆสวมใส่หมวกกันน๊อค แต่ก็ยังพบอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับน้องๆนักเรียนจนขั้นเสียชีวิตแม้สวมหมวกกันน๊อค เนื่องจากน้องๆส่วนใหญ่ชอบขับรถเร็วและชอบแข่งกัน
Discussion about this post