
วันที่ 21 ก.ย.2566 ความคืบหน้ากรณีตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) จาก กก.2 บก.ปส.3 ปะทะกับกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย โดยสามารถยึดของกลางยาเสพติดเป็นไอซ์ น้ำรวมกว่า 1 ตัน วิสามัญคนร้าย 1 ศพ แต่ต้องสูญเสียเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติงานไป 1 นายคือ ด.ต.วีระวัฒน์ คำดี สังกัดหน่วยปราบปรามยาเสพติดเชียงราย (นปส.เชียงราย) กก.2 บก.ปส.3 และ ด.ต.วิพู พานพิมพ์ สังกัดอยู่หน่วยเดียวกัน ได้รับบาดเจ็บอีก 1 นาย เหตุเกิดช่วงดึกคืนวันที่ 19 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา
ล่าสุดทางครอบครัวคำดี พร้อมด้วยบรรดาญาติๆ และเพื่อนตำรวจได้มีการเคลื่อนร่าง ของ ด.ต.วีระวัฒน์ คำดี จากโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ มาบำเพ็ญกุศล ที่วัดเม็งรายมหาราช อ.เมือง จ.เชียงราย ท่ามกลางบรรยากาศอันเศร้าโศกของเพื่อนร่วมอาชีพ ผู้บังคับบัญชา ครอบครัวและญาติพี่น้อง ของ ด.ต.วีระวัฒน์ คำดี โดยเฉพาะ นางเพลินตา คำดี และด.ญ.พัทธนันท์ คำดี ภรยาและบุตรสาว ที่ร้องไห้น้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลา
ทั้งนี้จะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พร้อมเครื่องเกียรติยศประกอบศพ ในเวลา 15.30 น. ของวันนี้ และมีกำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพ พร้อมเครื่องเกียรติยศประกอบศพในเวลา 16.00 น.ของวันที่ 26 กันยายน 2566 ณ เมรุวัดเม็งรายมหราราช อ.เมือง จ.เชียงราย
โดยนางเพลินตา คำดี ภรรยา เปิดเผยว่า สามีปกติจะเป็นตั้งใจทำงานอย่างมาก ส่วนใหญ่มักใช้ชีวิตอยู่ที่หน่วย หากวันไหนไม่มีงานก็จะไปส่งบุตรสาวไปโรงเรียน สามีเป็นคนรักในอาชีพ รักเพื่อนตำรวจและรักครอบครัวมาก ซึ่งตนก็รู้ดีว่าอาชีพของสามีเป็นงานที่เสี่ยง คิดว่าสักวันครอบครัวจะต้องเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ ได้แต่ทำใจมาตลอดแต่ไม่คิดว่าจะมาถึงเร็วเช่นนี้ ซึ่ง ตัวสามีเองก็ไม่เคยคิดย่อท้อ มุ่งมั่นในการทำอาชีพตำรวจให้ดีที่สุดจนสวาระสุดท้าย
นางเพลินตา กล่าวด้วยว่า ก่อนเหตุไม่ได้มีลางบอกเหตุอะไรเลย มีเพียงอาทิตย์ก่อนเกิดเหตุที่ทางสามีได้ไลน์ไปบอกทางน้องสาวว่า นั่งในรถเหมือนได้กลิ่นโรงพยาบาล จึงถามน้องสาวซึ่งอยู่โคราชว่า มีใครเป็นอะไรไหม น้องสาวก็บอกว่าไม่มีอะไร
ตนมาทราบการเสียชีวิตของสามีตอนประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ โดยทราบทางเฟสบุ๊คว่ามีเหตุยิงกันที่ อ.เวียงชัย แต่คิดว่าสามีไปอีกงาน ซึ่งทันทีที่รู้ว่าเหตุเกิดกับสามีตน ก็ตกใจมาก เพราะครอบครัวเรามีกันอยู่เพียง 3 คน พ่อแม่ลูก และ ด.ต.วีระวฒน์ เหมือนเสาหลักของครอบครัว
การสูญเสียในครั้งนี้ครอบครัวก็จะลำบากในการดำเนินชีวิตเพราะต้องอยู่กันเพียง 2 คน ตนเคยบอกสามีว่า ทำไมทำงานเยอะขนาดนี้ เขาก็บอกว่ายาเสพติดเชียงรายมีมาก หากเขาไม่ทำก็ไม่มีใครทำ
ทางด้าน ด.ญ.พัทธนันท์ คำดี บุตรสาว กล่าวว่าแม้ตนจะรู้สึกเสียใจต่อการจากไปของบิดา แต่ตนก็ภูมิใจที่พ่อเสียชีวิตในการหน้าที่เพื่อสังคม ไม่เคยภูมิใจใครมากเท่าพ่อมาก่อน พ่อเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นคนรักครอบครัวและตั้งใจทำงานมาก หากตนมีโอกาสได้รับราชการก็อยากมีอาชีพเป็นตำรวจเหมือนพ่อ โดยอยากเป็นชุดสืบสวน สุดท้ายก็อยากบอกว่าให้พ่อได้พัก ไม่ต้องทำงานหนักอีกแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงหนูกับแม่ดูแลกันเองได้
ทั้งนี้ทางเพจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้โพสต์ว่า ทาง ตร.ได้ให้การช่วยเหลือเบื้องต้นด้วยการจัดการศพและมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 2.2 ล้านบาท พร้อมเลื่อนเงินเดือน 7 ขั้น เสนอปูนบำเหน็จยศเป็น พ.ต.ท.เป็นกรณีพิเศษฯ ด้วย ด้าน ด.ต.วิภู พานพิมพ์ ผบ.หมู่ กก.2 ปส.3 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่เดียวกันก็จะได้รับการช่วยเหลือด้านสวัสดิการอย่างเต็มที่เช่นกันด้วย.
Discussion about this post