
จากกรณีผู้ใช้ Tik Tok ชื่อ บอย ไลท์_นนทบุรี 789 ได้โพสต์คลิป ชายขี่รถจยย.กีดขวางรถกู้ชีพ ขณะในรถมีผู้ป่วยฉุกเฉินทำให้นำส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าไม่ทัน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา พร้อทระบุข้อความว่า ” ดราม่าสุดๆ ประชาชนและกู้ภัยโพสต์ตามหาคนขับรถจักรยานยนต์ขวางทีมรถกู้ชีพภายในรถนั้นมีผู้ป่วยฉุกเฉิน ทางรถกู้ชีพรับผู้ป่วยมาจากซอยงามวงศ์วานเพื่อนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โดยก่อนหน้านี้ทางญาติมีการปั๊มหัวใจผู้ป่วยดังกล่าวแล้ว พอรถกู้ชีพจะนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า มีการเปิดเสียงสัญญาณไซเรนและไฟวับวาบ เพื่อขอทางเปิดทางให้กับรถกู้ชีพ ก็ปรากฏตามภาพนี้ครับ…เบื้องต้นได้รับแจ้งจากอาสากู้ภัย ว่าผู้ป่วยที่อยู่ในรถได้เสียชีวิตลงแล้วขอแสดงความเสียใจต่อญาติผู้ป่วยไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเลย “
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 29 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง ศูนย์นันทนาการเทศบาลนครนนทบุรี อ.เมือง จ.นนทบุรี สอบ ถามนายนิพนธ์ ธงโพธิ์ทอง อายุ 41 ปี เจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลนครนนทบุรี เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานที่ผ่านมาเวลาประมาณ 13.00 น. ตนนั่งอยู่ในห้องศูนย์กู้ชีพได้รับแจ้งจากทางว.13 ว่ามีผู้ป่วยวัย 83 ปี ลื่นล้ม หมดสติทางทีมได้โทรกลับไปถามถึงอาการว่ายังมีชีพจรหรือไม่ อย่างไร ทางญาติแจ้งว่าผู้ป่วยหมดสติ ไม่รู้สึกตัว ชีพจรไม่เต้นทางกู้ชีพจึงแนะ นำให้ญาติทำ CPR ระหว่างรอรถกู้ชีพ ระหว่างที่ขับไปรถหลีกให้ปกติจนมาถึงช่วงใต้ทางด่วน กำลังจะเข้าซ้าย ทางทีมกู้ชีพได้พูดขอเข้าทางซ้าย แต่มีรถจักร ยานยนต์ขี่สวนมาและขี่ไป ทางทีมพยายามเร่งความเร็วเพื่อจะได้ถึงให้ไว แต่ทางขวาเบี่ยงไปไม่ได้ ทางซ้ายก็เบี่ยงไม่ได้คู่กรณีขับช้า ตนจึงบีบแตรพร้อมกดออกเสียงเพื่อให้คู่กรณีหลบแต่ไม่หลบ พอมาถึงช่วงที่หลบได้คู่กรณีก็หลบแต่ชะลอ ตามคลิปจะมีช่วงนึงคู่กรณีชำเลืองมองนึกว่าแซงไปแล้วคู่กรณีบิดแซงและปาดเข้ามาดิ่งตรงไป แต่ทางรถกู้ชีพต้องยูเทิร์นเพื่อเลี้ยวเข้าไปบ้านผู้ป่วยแถวงามวงศ์วาน 12 พอตนไปถึงที่บ้านผู้ป่วยได้เสียชีวิตแล้ว ณ ที่เกิดเหตุ ผู้ป่วยเป็นผู้หญิง อายุประมาณ 80 ปี
นายนิพนธ์ กล่าวต่ออีกว่า สุดท้ายอยากฝากคลิปนี้เป็นอุทาหรณ์หากผู้ใช้รถใช้ถนนหากได้ยินเสียงรถพยาบาล เลี่ยงขวาหรือซ้ายได้ช่วยเลี่ยงให้หน่อย แต่ในพื้นที่จังหวัดนนทุบรีบางคนเลี่ยงให้กันเยอะ ขอบคุณคนที่หลบหลีกให้รถพยาบาลสำหรับเหตุ การณ์นี้ยังไม่ได้คุยกับญาติผู้เสียชีวิตตอนไปถึงทีมเข้าไปดูผู้ป่วยก่อน ใช้เครื่องวัดชีพจรพบว่าไม่ขึ้นแล้ว จึงนั่งคุยกับญาติ ทางญาติเข้าใจและยอมรับในการตัดสินใจของแพทย์ว่าผู้ป่วยไม่สามารถกลับมาได้แล้ว ยืนยันว่าเสียชีวิตที่เกิดเหตุ ฝากบอกคนขับรถคนนั้น อยากให้หลบ ไม่รู้เลยว่ารถพยาบาลแต่ละคันมีเคสหนักหรือไม่ แต่หลบได้หลบเถอะ เสียเวลาแค่ไม่กี่วินาที
ทางด้านนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้สัม ภาษณ์ว่า การกีดขวางรถพยาบาลที่เปิดสัญญาณไซเรนเพื่อขอทางตามพรบ.จราจรทางบก มาตรา 76 กำหนดไว้ว่า ไม่ว่าจะเป็นคนที่เดินอยู่บนถนนจะต้องหลบเข้าฟุตบาท รถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือถ้ากำลังเลี้ยงวัว ควาย หรือยานพาหนะที่เป็นสัตว์ต้องให้หลบเพื่อให้รถฉุกเฉินไปก่อน หากฝ่าฝืนตามกฎหมายใหม่ปรับ 2,000 บาท หากมีผู้ป่วยอยู่ในรถและเสียชีวิตเพราะจอดรถกีด ขวางการจราจรเพื่อไม่ให้รถฉุก เฉินไปถึงที่หมาย อาจถูกตั้งข้อหากระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผูัอื่นถึงแก่ความตาย ทางญาติผู้เสียชีวิตมีสิทธิ์ดำเนินคดี เพราะจอดรถขวางทำให้คนไข้ไปถึงมือคุณหมอไม่ทันใจเขาใจเรา.
Discussion about this post