
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 30 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบ ส.ต.ต.นัธทวัฒน์ เกตุแก้ว ผบ.หมู่.(ป.) สภ.เมืองนนทบุรี หลังจากได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวเข่ามีอาการบวม กล้ามเนื้ออักเสพข้างซ้ายช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ขับขี่รถจยย. พร้อมด้วย ด.ต.พิเชษฐ จำปาทอง ผบ.หมู่(ป.) สภ.เมือง นนทบุรี ไล่ตามคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงคู่อริช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา
ส.ต.ต.นัธทวัฒน์ เกตุแก้ว ผบ.หมู่.(ป.) สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวว่า ช่วงเมื่อคืนเวลาประมาณ 01.00 น. ตนได้รับแจ้งเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นจับกลุ่มกันอาวุธมีอาวุธปืนและมีดมุ่งหน้าสะพานเจษฎาบดินทร์ ตนจึงรีบเข้าตรวจสอบพบว่าบริเวณสะพานเจษฎาบดินทร์ไม่มีกลุ่มวัยรุ่น หลังจากนั้นผ่านไปสักพักตนได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มวัยรุ่นถูกยิงในพื้นที่บางศรีเมืองนำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าตนจึงเข้าไปตรวจสอบหาข้อมูลแต่เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มอยู่ตรงห้องฉุกเฉินและมีรถจยย. ต้องสงสัยมีผู้ ขับขี่และผู้ซ้อน 1 คัน เมื่อ วัยรุ่นสองคนได้เห็นเจ้าที่ตำรวจได้ทำท่าทาง สงสัยมีพิรุธและขับหนีออกมาจากโรงพยาบาลหนีจากโรงพยาบาลพระนั่งเกล้ามุ่งหน้าถนนรัตนาธิ
เบศร์จนขี่ไปถึงเซ็นทรัลเวสต์เกตไปถนนเส้นบางกรวยไทรน้อยตัดไปถึง 345 และวนกลับมาที่ปาก เกร็ด ซึ่งตนได้ขี่รถตามไปทุกที่แต่มาจับกุมได้ที่บริเวณซอยต้นสนปากเกร็ด พฤติกรรมสองคนได้ถืออาวุธปืนทั้งสองคน จัง หวะที่ตนสกัดจับปืนของคนร้ายได้รันแต่ไม่มีใครได้รับบัตรเจ็บแต่ตนที ไล่กวดมาได้เสียหลักล้มพร้อมกับคนร้าย แต่คนร้ายไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ตนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกคน ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาและหัวเข่าเนื่องจากรถล้ม คนร้ายพยายามขัดขืนอยู่ตลอดแต่จังหวะที่รถล้มรถจักรยานยนต์ได้ล้มทับขาทำให้ไม่สามารถหนีได้ซึ่งตนไล่ตามคน ร้ายประมาณ 20 ถึง 30 กิโลเมตรใช้เวลาไล่ตามประมาณครึ่งชั่วโมง
เบื้องต้นหลังจากเกิดเหตุตนได้ไปพักฟื้นที่โรงพยาบาลกรมชลประ ทาน ได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้ออักเสบ เกิดจากแรงกระแทกส่วนเจ้าหน้าที่คนได้รับบัตรเจ็บอักเสบบริเวณขาและไหปลาร้าร้าว ตอนนี้นำตัวรักษาที่ต่างจังหวัด หลังจากที่จับตัวคนร้ายได้ ตนได้ยึดอาวุธปืน ไทยประดิษฐ์ขนาด 9 มม. และ 380 มีทั้งหมดประมาณ 20 กว่านัด และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ. ปากเกร็ด ในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจสายตรวจซึ่งเป็นงานป้องกันและปราบปรามเหตุการณ์แบบนี้ตนต้องเจอเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหากไม่เข้าระงับเหตุก็คงไม่ต้องทำอาชีพนี้และนอนอยู่บ้านไปนานแล้ว ตอนนี้ผู้บังคับบัญชาตนก็ได้ให้ตนพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านก่อนประมาณ 2 อาทิตย์ จนกว่าจะหายเป็นปกติ
ส่วนทางด้านนายพีรภาส ทันบุญ อายุ 18 ปี และนายชัยพัฒน์ ทิพรัตน์ อายุ 18 ปี ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ตนได้ขี่จยย.หนีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเรื่อยๆไม่ยอมจอด แต่มาเสียหลักล้มบริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าว แต่ไม่ได้โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกาย แค่เจ็บขาเพราะตอนรถล้มโดนรถทับขา ตนใส่เหล็กอยู่ที่ขาทำให้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เเต่เหตุการณ์นี้เป็นเพราะตนขับหนีไม่ยอมจอด เพราะกลัวความผิดที่พกอาวุธปืนมาด้วย.
Discussion about this post