
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 3 ตุลาคม ร.ต.ท.ชุม เหล่าอุทธา รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าเขตงานพิชัยรักษ์ ได้รับแจ้งว่าพบรถปิกอัพต้องสงสัยจอดอยู่บริเวณริมหนองใหญ่ บ้านหนองใหญ่ เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังกระบะมีสายไฟและร่องรอยการปลอกสายไฟ และเผาสายไฟ มีผู้ชายนอนหลับอยู่เบาะหลัง จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุเป็นริมหนองใหญ่ซึ่งเป็นหนองน้ำสาธารณะทางด้านทิศตะวันตกของหนองน้ำพบรถยนต์ปิกอัพ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ 4 ประตู ทะเบียน กท 3421 ร้อยเอ็ด ข้างรถติดสติ๊กเกอร์“เสี่ยป๋องจัดจ้าน”จอดอยู่ ที่กระบะรถด้านหลังพบสายไฟขนาดใหญ่ 2 ม้วน และเศษสายไฟจำนวนหนึ่ง กรรไกรตัดสายไฟ คีมตัดสายไฟ พบผู้ชายนอนอยู่เบาะหลัง ขณะเข้าตรวจสอบ ผู้ชายที่นอนหลับได้ตื่นขึ้นมา เมื่อเห็นจนท.ตำรวจและชาวบ้าน ก็ได้เดินลงจากรถทำทีเป็นงัวเงีย แล้วอาศัยจังหวะเจ้าหน้าที่เผลอวิ่งหลบหนีเข้าในป่าละเมาะ ข้างวัดหนองใหญ่ไป
จากนั้น จนท.ตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบภายในรถพบกระเป๋าเงิน เอกสารทางราชการระบุชื่อ
นายสุรพล เพชรศรี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 18 ต.สระคู อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด และบัตรพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง รับเหมาตกแต่งภายใน ซึ่งทำงานในท่าอากาศยานอุดรธานี โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง มีด อุปกรณ์ตัดสายไฟ และตรวจสอบกระเป๋าสีชมพู วางอยู่บนเบาะคนขับภายในมีถุงพลาสติกสีฟ้าบรรจุยาบ้า 30 เม็ด และอุปกรณ์การเสพจำนวนมาก จึงได้ประสานตำรวจชุดสืบสวนออกมาร่วมตรวจสอบ และตรวจยึดรถยนต์ไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่ สภ.เมืองอุดรธานี
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายพจญ เพิ่มมี อายุ 66 ปี ราษฎรชาวบ้านหนองใหญ่ คนพบพบรถยนต์ปิกอัพจอด ให้การว่า ก่อนนี้ตนมาทำนา เมื่อมาถึงที่นาพบว่ามีรถปิกอัพจอดอยู่ แต่หาข้าวของรถไม่เห็น จึงได้เดินไปดูรอบรถ พบว่าด้านหลังมีม้วนสายไฟ และร่องรอยของการเผาและปลอกสายไฟ ได้มองดูในรถพบมีชายนอนอยู่ด้านเบาะหลัง ซึ่งตนคิดว่ามันแปลก หรือว่ามาจอดเสพยาบ้าแล้วนอนหลับ จึงได้แจ้งประธานชุมชนให้มาดู จากนั้นจึงได้แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
ร.ต.ท.ชุบ เหล่าอุทธา รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งว่าพบรถต้องสงสัยจอดอยู่ริมหนองใหญ่ มีสายไฟจำนวนมากคาดว่าจะขโมยสายไฟมา จึงนำผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานมาตรวจสอบ เมื่อมาถึงพบเจ้าของรถนอนอยู่ภายในรถ จึงยังไม่ได้ปลุก แล้วได้เดินตรวจสอบรอบรถ จากนั้นจึงได้ปลุกขึ้นมาสอบถาม คนขับก็เดินลงมายังมีอาการงัวเงีย เมื่อสอบถามบอกว่าทำงานในสนามบินจะไปหาหัวหน้า ตนจึงเดินตามและบอกให้หยุด แต่ชายคนดังกล่าวได้วิ่งหลบหนีเข้าป่าละเมาะข้างวัด ตนและเจ้าหน้าที่วิ่งไล่ตามแต่ไม่ทัน
“จึงกลับมาตรวจสอบที่รถ พบกุญแจรถวางไว้ ที่กระบะด้านหลังพบ สายไฟและอุปกรณ์ตัดสายไฟ ภายในรถพบยาบ้าในกระเป๋า จึงประสานตำรวจสืบสวน เข้าตรวจสอบและตรวจยึดรถเข้าไปโรงพัก เพื่อรอเจ้าของมาติดต่อขอรับรถ และจะได้สอบสวนว่าใครเป็นเจ้าของรถ ขับเองหรือให้ใครนำรถมาขับ เพื่อจะได้หาเจ้าของยาบ้า มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป”
ต่อมาในเวลา 11.40 น.วันเดียวกันนางเพชรอุบล ใจภัคดี อายุ 45 ปี ราษฎรชาวร้อยเอ็ด เดินทางมาที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองอุดรธานี หลังจากทราบเรื่องว่ารถยนต์ถูกนำมา จึงมาแสดงตัวเป็นเจ้าของรถโดยเปิดเผยว่า ตนเป็นแม่ของนายสุรพล เพชรศรี อายุ 28 ปี ที่หลบหนีไป ตนทำงานกับบริษัทตกแต่งภายใน ทำงานที่สนามบินอุดรธานี โดยตนกับนายสุรพลรับจ้างปูกระเบื้อง แต่ลูกชายไม่ได้เข้าไปทำงานหลายวันแล้ว ก่อนเกิดเหตุ ค่ำวานนี้ลูกชายก็ขอยืมรถออกไปว่าจะไปทำธุระ ตนเลิกงานมาเวลา 03.00 น. ได้กลับบ้านไม่เห็นรถ จนสายวันนี้มีคนมาบอกว่า ตำรวจมายึดเอารถของตนไปไว้ที่ สภ.เมืองอุดรฯ หลังรู้เรื่องก็ตกใจ จึงได้นั่งรถโดยสารมา ก็พบรถของตนที่ตนและสามีใช้ขับไปทำงาน ไม่คิดว่าจะพบยาบ้าในรถ เพราะพวกตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องผิดกฎหมาย ก็อยากบอกให้ลูกเข้ามามอบตัวจะได้เสร็จเรื่องตนจะได้นำรถออกไปใช้งานเพื่อหาเงินส่งค่างวดต่อไป.
Discussion about this post