
ยายวัย 84 ปี ชาวอ.กระสัง บุรีรัมย์ อยู่คนเดียวมานานกว่า 30 ปี เดินไม่ได้ ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ ได้ข้าวเหลือจากอาหารกลางวันเด็กประทัง ชาวบ้านได้แค่เวียนกันมาดูแลเท่าที่ทำได้ ขายที่ดินได้เงิน 3 แสนหลานกับเหลนมาเยี่ยมหอบเงินไปแล้วหายหน้า อ้างมีภาระ
วันที่ 8 ต.ค.66 ชาวเน็ตที่บุรีรัมย์ นำภาพยายแก่มาโพสต์ระบุความยากจนแร้นแค้น บ้านไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้าใช้ อยู่ตัวคนเดียวไม่มีใครมาเหลียวแล มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
ตรวจสอบพบว่าบุคคลในภาพคือนางเยอะ บังทอง อายุ 84 ปี ชาวบ้านไม้แดง ต.ชุมแสง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ อาศัยอยู่คนเดียว ลักษณะบ้านเป็นเพิงพัก ปลูกอยู่กับดิน ไม่มีน้ำประปา ไม่มีไฟฟ้าใช้
สอบถามนางเยอะ เล่าว่า ตนอยู่คนเดียวมากว่า 30 ปี มีลูก 2 คนเสียชีวิตไปหมดแล้ว เหลือเพียงหลานกับเหลน แต่ไปทำงานต่างจังหวัด นานๆถึงจะกลับมาเยี่ยม ส่วนอาหารจะมีชาวบ้านเอามาให้ ได้กินบ้างไม่กินบ้าง
น.ส. เอี่ยม โสรักนิด ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 เล่าว่าเห็นสภาพของยายมานาน ชาวบ้านพยายามช่วยเหลือด้วยการแบ่งปันอาหารมาให้ อาหารกลางวันจะมีครูแบ่งเอาอาหารเด็กมาให้เป็นประจำ ที่ผ่านมาทั้ง อสม.และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน(รพ.สต.)จะมาให้การดูแลเป็นระยะ
ผู้ใหญ่บ้าน เล่าด้วยว่าหน่วยงานของรัฐเช่นกาชาดบุรีรัมย์ และ อบต.ในพื้นที่ ได้เข้ามาดูแลเป็นระยะเคยมีคนเอาเงินมาช่วยยาย 6,000 บาท พอหลานทราบข่าวก็เดินทางกลับบ้านมาใช้เงินยายจนหมดแล้วกลับไป เมื่อ 15 ปีที่ผ่านมายายขายที่ดินได้เงิน 300,000 บาท หลานกับเหลนยายมาขอเงินยายไปทั้งหมด แล้วหนีไปทำงานไม่เคยกลับมาอีก ที่ยายอยู่ได้ทุกวันนี้เป็นเพราะมีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นพยายามแวะมาดู เงินที่ยายได้มาจากเบี้ยคนพิการและผู้สูงอายุ ผู้ใหญ่บ้านจะเก็บไว้ให้แล้วเบิกใช้ในยามจำเป็น แต่ไม่มีใครมาอยู่เป็นเพื่อนกับยายได้ตลอดเวลาเหมือนลูกหลานได้ ตอนนี้ได้ขอร้องเจ้าของที่ดินที่ยายอยู่ อย่าพึ่งไล่ยายออกเพราะยายรักจะอยู่ที่ดินผืนนี้ ไม่ยอมไปไหนแม้แต่บ้านพักคนชราเพราะยายยังคอยว่าหลานกับเหลนจะมาเยี่ยม.
Discussion about this post