“ไชยา” ชี้เหตุยิงนายด่านที่ จ.เพชรบูรณ์ ตร.ท้องที่รู้เห็นแต่หวั่นอิทธิพล ระบุเครือข่ายข้ามชาติ ลั่นสงครามปราบเนื้อเถื่อนเริ่มแล้ว !!

ทำเนียบรัฐบาล – เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566 นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การทำงานในการปราบปรามขบวนการเนื้อเถื่อนหรือสินค้าทางการเกษตรที่ผิดกฏหมาย ตามนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการเป็นขั้นตอนมาโดยตลอดและที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ ก็ได้ดำเนินการยึดเนื้อหมูเถื่อนจำนวน 161 ตู้คอนเทรน
เนอร์ ได้ที่ท่าเรือแหลมฉบัง และยังอยู่ในขั้นตอนการทำลายซากให้สิ้นซากต่อไป และเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ก็ได้ตรวจยึดเนื้อเถื่อน ที่ห้องเย็นใน จ.ปทุมธานี ปรากฏว่าได้พบการนำเข้าเนื้อกระบือหรือเนื้อควาย ลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศโดยผ่านเข้ามาตามช่องทางตามชายแดนไทย

“ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ได้ทวีความรุนแรงมาขึ้นเพราะความเอาจริงเอาจังในด้านการปราบปรามเนื้อเถื่อน ตามที่ตนได้มอบนโยบายให้ กรมปศุสัตว์ดำเนินการปราบปรามเนื้อเถื่อน โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด ที่ จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นนายด่านกักกันสัตว์ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เข้าตรวจค้นห้องเย็นในเขต อ.หล่มสัก ปรากฏว่ามีการปะทะกันทำให้ผู้ประกอบการไม่พอใจ จนถึงขนาดที่ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ของรัฐจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และยังมีผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเช่นกัน จะเห็นได้ว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์นั้น เจ้าหน้าที่เค้าเป็นเพียง สัตวแพทย์ เป็นเจ้าหน้าที่สัตวบาล ซึ่งไม่มีอาวุธ แต่ เจ้าหน้าที่มีเพียงอาวุธ คืออำนาจและหน้าที่ ที่ได้ทำหน้าที่โดยสุจริต ที่ต้องเพียงการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ปกป้องประโยชน์ของประชาชน”

นายไชยา กล่าวต่อไปว่า กรณีที่ จ.เพชรบูรณ์ ตนทราบข่าวว่าก่อนที่เจ้าหน้าที่ฯ จะเข้าไปยังที่เกิดเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ฯ ได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ แต่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมตรวจที่เกิดเหตุเพื่อตรวจค้นอย่างเป็นทางการ แต่ว่าตอนที่เกิดเหตุตนได้รับรายงานในพื้นที่ว่า ระหว่างเกิดเหตุได้มีการเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่เข้ามาเจรจาต่อรองเนื่องจากผู้ประกอบการก็อาศัยอิทธพลท้องถิ่นความรู้จักมักคุ้นกับผู้มีอำนาจในพื้นที่มาเจรจา ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่ใช้เรื่องปกติ หรือเป็นเรื่องอิทธิพลท้องถิ่นธรรมดา แต่ว่าเป็นขบวนการที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นการเสียชีวิตของบุคลากรคนสำคัญในฐานะที่เป็นข้าราชการที่เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่จึงเป็นเรื่องใหญ่ การเข้าไปตรวจก็เป็นไปตามหน้าที่ซึ่งปฏิบัติตามกฏหมาย แต่ว่าขบวนการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าไม่ใช่เฉพาะอิทธิพลท้องถิ่นเท่านั้นแต่กระบวนการนำเข้าเนื้อเถื่อน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู วัว ควาย มีการกระทำแบบมีเครือข่ายเชื่อมโยงกันมากมาย

“ตนได้รับรายงานเช้านี้จากกรมปศุสัตว์ว่า ยังมีตู้คอนเทรนเนอร์ที่ตกค้างที่ท่าเรือแหลมฉบังอีกประมาณ 60 กว่าตู้และยังไม่มีการส่งมอบ 100% เนื่องจากว่ายังเป็นคดีที่ยังต้องทำการสืบสวนสอบสวนต่อไป และวันนี้ถึงเวลาที่จะต้องเปิดตู้เพราะเกินระยะเวลากำหนด และยังพบว่ามีผู้ไปร้องเรียนกรมปศุสัตว์ ว่ากรมปศุสัตว์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ผิดตามมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ วันนี้อธิบดีกรมปศุสัตว์และเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ก็ได้ไปดำเนินการเพื่อที่จะเปิดตู้เพื่อให้เห็นถึงความผิดปกติและไม่โปร่งใสต่อกระบวนการดังกล่าวนี้ ตนยืนยันว่าการทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์นั้นไม่ได้ทำโดยพละการแต่ได้ขอความร่วมมือจาก ฝ่ายความมั่นคง จากกรมศุลากร เพื่อทำลายของกลางที่ถูกจับได้”

นายไชยา กล่าวอีกว่า ตนอยากเรียนสื่อมวลชนว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ที่ จ.เพชรบูรณ์ วันนี้ได้มีการประสานงานจาก ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ ตำรวจ และทุกหน่วยงาน ว่า จากนี้ไป กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์จะทำการเอกซเรย์ขบวนการที่กระทำผิดกฏหมายในการลักลอบนำเข้าเนื้อหมู หรือเนื้อเถื่อนทุกชนิด แม้กระทั้งของประมงก็ตาม จะทำการเอกซเรย์ทั่วประเทศ และในขณะนี้คิกออฟแล้วมีการสั่งการไปยังกรมปศุสัว์ ให้ประสานความร่วมมือ ฝ่ายความมั่นคง ผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันทำงาน

“อีกกรณีต้องการเรียนผู้สื่อข่าวให้ทราบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ตนมีข้อสังเกตว่าในขณะที่เกิดเหตุตนยืนยันเป็นข้อมูลว่า ขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในเหตุการณ์ จึงขอให้ผู้สื่อข่าวได้ช่วยหาข้อมูล ข้อเท็จจริงว่าสิ่งที่ได้แถลงข่าวนั้น ข้อเท็จจริงอย่างไร เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องเล็กมีการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่รัฐ และยังเป็นการทำลายเศรษฐกิจของประเทศ เพราะฉะนั้นนโยบายการปราบปรามสินค้าเถื่อนที่เป็นสินค้าทางการเกษตรก็ทำเพื่อที่จะคุ้มครองประชาชนให้ได้รับสินค้าที่มีคุณภาพ ถูกต้องตามหลักสุขะอนามัย ปลอดโรคปลอดภัย และประการที่สำคัญที่สุดคือการคุ้มครองผู้ประกอบการ ทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ การกระทำการค้าสินค้าเถื่อนไม่ว่าจะประเภทไหนก็ตามจึงเป็นการทำลายกลไกตลาด ทำลายชีวิตเกษตรกรโดยเฉพาะรายย่อย และทุกวันนี้กระทรวงเกษตรฯ ต้องรับปัญหาการร้องทุกข์ โดยเฉพาะสุกร ที่มีราคาตกต่ำจนไม่สามารถที่จะนำส่งขายออกนอกประเทศได้ เนื่องจากถูกกดราคา มีการลักลอบเข้าเนื้อหมูเถื่อน มาทำลายวงจรการตลาดของประเทศไทย ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ที่ต้องทำก็เพื่อการปกป้องพี่น้องเกษตรกรรายย่อยที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ตนได้รับมอบหมายดูแลจะเดินหน้าเรื่องนี้อย่างจริงจัง และขอประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรที่ผิดกฏหมายทุกชนิดว่าจากนี้ไป กระทรวงเกษตรฯจะประสานความร่วมมือแบบบูรณาการกับทุกภาคส่วนในการเอาจริงเอาจังในการปกป้องพี่น้องประชาชนเพื่อไม่ให้ปัญหานี้มาทำลายเศรษฐกิจของประเทศต่อไป.