วันที่ 13 ตุลาคม 2566 นายจิรายุ สุกใจ แรงงานไทยที่ไปทำงานในอิสราเอล ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนจากการสู้รบกันของกลุ่มฮามาสกับประเทศอิสราเอล ได้เดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดที่บ้านโพธิ์ เลขที่ 11 หมู่ที่ 22 ตำบลพรมเทพ อำเภอท่าตูม จ.สุรินทร์แล้ว โดยเดินทางด้วยรถตู้พร้อมญาติๆร่วมเดินทางมาส่ง หลังจากกลับมาถึงประเทศไทยถึงสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อเวลา 11.30 น.ที่ผ่านมา และเข้ารับการตรวจรักษาอาการบาดเจ็บจากแพทย์ที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร ซึ่งกรมแรงงานได้ส่งตัวเข้าตรวจรักษาอาการบาดเจ็บ แพทย์อนุญาตให้เดินทางกลับบ้านได้มาถึง เมื่อเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา
โดยในเช้าวันนี้ 13 ตุลาคม 2566 นายกำจร และนางจำรัส สุกใส พ่อกับแม่นายจริรายุ และญาติๆ ร่วมกันประกอบพิธีแซนโฎนตา บูชาบรรพบุรุษ หรือวันสารท ซึ่งวันนี้ตรงกับวันแซนฎนตา หรือไหว้บรรพบุรุษของชาวสุรินทร์พอดี และทำพิธีเรียกผูกข้อแขนรับขวัญให้ให้กับนายจิรายุ ซึ่งเป็นความเชื่อของของชาวบ้านในการรับขวัญกลับมาอย่างปลอดภัย โดยมีบรรดาญาติต่างมาร่วมพิธีดังกล่าวเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นและเต็มไปด้วยความดีใจของญาติ และสอบถามถึงอาการบาดเจ็บอย่างเป็นห่วง
นายจิรายุ แรงงานไทยที่กลับมาถึงบ้านเกิด เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนและเพื่อนแรงงานที่อยู่ด้วยกันว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ในขณะนั้นตนอยู่ที่แค็มคนงานในฟาร์มไก่และคนงานไทย อีก 5 คน จู่ๆก็มีกลุ่มฮามาสบุกเข้ามาแล้วยิงใส่ที่พักซึ่งเป็นตู้คอนเทนเนอร์ ตนและเพื่อนต่างหาที่หลบ ตนได้หลบใต้เตียงนอน และมารู้สึกตัวมาโดนยิงเข้าที่ด้านหลัง แต่ก็ต้องทน จากนั้นก็มีเสียงปืนดังต่อเนื่อง นานหลายชั่วโมง พอเงียบได้สักพักตนและเพื่อนๆคนงานก็ตัดสินใจ พากันวิ่งออกจากที่พักเข้าไปหลบในโรงงานทั้งที่บาดเจ็บ ต่างคนต่างวิ่งเอาตัวรอด เข้าไปหลบในโรงงาน ซึ่งเป็นโรงฟักไข่ไก่ ต้องทนอยู่และทำให้เงียบเป็นอย่างมาก จากนั้นก็ได้ยินเสียงคนเดินไปมารอบโรงงานและมีบางส่วนเข้ามาในโรงงาน พยายามเปิดประตูห้องเข้าไป แต่เปิดไม่ได้เพราะพวกตนล็อกไว้ จากนั้นก็เกิดเสียงปืนดังสนั่นขึ้น มาอีกครั้งและยาวต่อเนื่องเกือบทั้งคืน จนถึงเช้าวันที่ 8 ตุลาคม จึงเงียบไป พวกตนต้องทนอยู่ในห้องฟักไข่ตลอดทั้งคืน จนกระทั่งทหารอิสราเอลเข้ามาช่วย จากนั้นเลยโทรหานายจ้างให้มารับ แล้วนำตัวออกไปและส่ง รพ.ให้รับการรักษา โดยกลุ่มอามาทได้เข้าจู่โจมเร็วมาก ยิงใส่แบบไม่สนใจอะไรเลย พวกตนต่างวิ่งหนีตายเอาตัวรอดไปซ่อนไนโรงงาน จึงรอดมาได้ และไม่ถูกจับเป็นตัวประกันโชคดีมาก ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่ากลัวมาก หลังออกมาจากโรงงานพบว่ามีศพผู้เสียชีวิตอยู่ 4 ศพ น่าจะเป็นกลุ่มฮามาส และก็ยังเป็นห่วงแรงงานรุ่นพี่อีกคน เป็นคนไทยไม่ทราบว่าอยู่จังหวัดไหน เพราะตนพึ่งไปทำงานได้ 4 เดือน ก็ได้หายตัวไปไม่ทราบชะตากรรมเลย ตอนนี้ได้กลับมาบ้านแล้ว จะไปทำงานอีกหรือไม่ต้องรักษาอาการบาดเจ็บให้หายก่อน แล้วจึงตัดสินใจหางานใหม่ทำ และในช่วงเกิดเหตุนั้นสิ่งหนึ่งที่ตนเชื่อบารมีท่านคุ้ม ครองคือพระที่ห้อยคอไว้ คือหลวงพ่อพงษ์ วัดบ้านปริง เจ้าคณะอำเภอท่าตูม ตนได้กำไว้และมองหน้าเพื่อนอีก 3 คนแล้วก้มอธิฐานตลอดขออย่าให้กลุ่มคนร้ายเห็น ในที่สุดก็รอดออกมา
ด้านนายกำจร และนางจำรัส พ่อกับแม่นายจริรายุ เผยว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่เห็นลูกชายเดินทางมาถึงประเทศไทยและถึงบ้านอย่างปลอดภัย ลูกชายได้กลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย และต่อจากนี้ที่ต้องเป็นห่วงคือสภาพจิตใจของลูกชาย เพราะต้องมาพบเจอเหตุการณ์ที่รุนแรงในชีวิตแบบนี้ ไม่ให้กลับไปทำงานที่เดิมอีกแล้ว และขอขอบคุณรัฐบาลและหนาวยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้ประสานช่วยเหลือจนกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย
อย่างไรก็ตามข้อมูลจากกรมแรงงานพบว่าจังหวัดสุรินทร์มีแรงงานที่ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลจำนวน 418 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย ประกอบด้วย นายจิรายุ สุกใส อายุ 24 ปี อยู่บ้านโพธิ์ เลขที่ 11 หมู่ที่ 22 ตำบลพรมเทพ อำเภอท่าตูม ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ไหล่ขวา อาการปลอดภัยเดินทางกลับประเทศ ไทยเดินทางถึงบ้านเกิดแล้ว , นายสนธยา กองสุข อายุ 42 ปี บ้านยางน้อย เลขที่ 18/1 หมู่ที่ 6 ตำบลหนองเมธี อำเภอท่าตูม จ.สุรินทร์ บาดเจ็บจากถูกสะเก็ดระเบิด อาการปลอดภัยแต่ยังคงรักษาตัวที่ รพ.ในประเทศอิสรา เอล และนายคมกฤษ ชมบัว อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 54 หมู่ 3 ต.โชคเหนือ อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ ถูกจับเป็นตัวประกัน ยังไม่ทราบชะตากรรม.
วรกิตติ์ เครือศรี จ.สุรินทร์
Discussion about this post