
วันที่ 15 ตุลาคม 2566 ที่เทศบาลเมือง (ทม.) แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายธนวัฒน์ ยอดใจ นายก ทม.แม่เหียะ เป็นประธานเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชา
ชน กรณีผลกระทบจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา มี น.ท.รณกร เฉลิมแสนยากร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แกนนำชุมชน และเครือข่ายภาคี เข้าร่วมกว่า 200 คน โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง
ทั้งนี้ในที่ประชุม ส่วนใหญ่ได้แสดงความเห็นคัดค้านเปิดบริการ 24 ชั่วโมง เนื่องจากท่าอากาศยาน ได้เปิดบริการวันละ 18 ชั่วโมงแล้ว ถ้าขยายเวลาเปิดเพิ่มส่ง
ผลกระทบต่อมลภาวะทางเสียง อากาศจากควันเครื่องบิน และสุขภาพชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง ดังนั้นอยากให้รัฐบาล เร่งรัดการสร้างสนามบินแห่งที่ 2 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว และขยายการเติบโตทางเศรษฐกิจแทน โดยศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตำบล รับเป็นเจ้าภาพรวบรวม
รายชื่อประชาชน เพื่อคัดค้านเรื่องดังกล่าว เพื่อให้ท่าอากาศยานเชียงใหม่เสนอไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเรื่องเข้า ครม. พิจารณาทบทวนเรื่องดังกล่าวโดยเร็วที่สุด เนื่องจากมติครม. กำหนดให้ท่าอากาศยานเชียง
ใหม่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป
นายเศวต เวียทอง รองนายก ทม.แม่เหียะ ในฐานะอาจารย์สาขารัฐศาสตร์การปกครอง คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) วิทยาเขตล้านนา กล่าวว่า ขอคัดค้านการขยายเวลาเปิดบริการ 24 ชั่วโมงเพราะมติ ครม. วันที่ 18 กันยายน 66 เป็นมติอัปยศ ผิดกฏหมาย เพราะไม่ได้ทำประชาพิจารณ์ และไม่ได้ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ ตามรัฐธรรมนูญ ม.58 ประกอบกับประชาชน ต.แม่เหียะ ได้เสียสละให้สนามบินเปิดบริการ 18 ชั่วโมงแล้ว แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ และเยียวยาจากผลกระทบดังกล่าวอย่างใด
“ไม่อยากเป็นคนบาป ตกนรก หากสนับสนุนให้เปิดสนามบิน 24 ชั่วโมง เพราะส่งผลกระทบต่อลูกหลานใน
อนาคตได้ ดังนั้นขอคัดค้านจนถึงที่สุด และขอต่อสู้เรื่องดังกล่าว จนถึงศาลฏีกาด้วย” นายเศวต กล่าว
น.ท.รณกร กล่าวว่า การขอขยายเวลา เปิดสนามบิน 24 ชั่วโมง เป็นไปตามกรอบการทำประชาพิจารณ์ ปี 2548
หรือ 18 ปีที่ผ่านมา เพื่อขยายรันเวย์และลานจอด แต่ยอมรับว่า ยังไม่ได้ทำประชาพิจารณ์ขยายเวลาเปิดบริ
การดังกล่าว ซึ่งท่าอากาศยานมีแผนทำประชาพิจารณ์ขยายอาคารคลังสินค้า (คาร์โก้) และศึกษา อีไอเอ ปลายปีนี้ ดังนั้นยังไม่สามารถเปิดสนามบิน 24 ชั่วโมง วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ได้เพราะขบวนการทำประชาพิจารณ์ยังไม่เสร็จสิ้น
“หากเปิดสนามบิน 24 ชั่วโมง ต้องผ่านกระบวนการทำประชาพิจารณ์ และศึกษาอีไอเอ ครบทุกขั้นตอน เพื่อให้เป็นไปตามกรอบกฏหมาย ไม่สามารถละเมิด หรือละเว้นกฏหมายได้ เบื้องต้นได้ตั้งกองทุนช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากท่าอากาศยาน 50,000
บาท/ปี และจัดตั้งชุดมวลชนสัมพันธ์ ท่าอากาศยาน เพื่อสร้างความเข้าใจกับชุมชนใกล้เคียง พร้อมออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการตรวจสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะมลภาวะทางเสียง เพื่อลดผลกระทบและความเดือดร้อนดังกล่าว” น.ท.รณกร กล่าว
นายธนวัฒน์ กล่าวว่า จะสรุปความคิดเห็นประชาชนจากผลกระทบดังกล่าวเพื่อเสนอท่าอากาศยานเชียงใหม่ และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แก้ไขปัญหา และเสนอไปยังรัฐบาล เพื่อทบทวนมติ ครม. ดังกล่าว เชื่อว่ารัฐบาลรับฟังเรื่องดังกล่าว เพราะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้พูดแล้วว่า รัฐบาลมาจากประชาชน ต้องรับฟังความคิดเห็นประชาชนด้วย
“ช่วงนายเศรษฐา มาตรวจราชการที่เชียงใหม่ และมาพบปะประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาที่ ทม.แม่เหียะ วันที่ 17
กันยายน ที่ผ่านมา ก่อนมีมติ ครม.วันที่ 18 กันยายน ให้เปิดสนามบิน 24ชั่วโมง ยืนยันว่า นายเศรษฐา และครม. มารับฟังปัญหาทั่วไป ไม่มีการเสนอขยายเวลาเปิดสนามบินอย่างใดซึ่งนายเศรษฐา มีเวลาพบปะประชาชน
เพียง 20 นาทีเท่านั้น ก่อนเดินทางไปยังท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่อติดตามการพัฒนาสนามบิน และการสร้างสนามบินแห่งที่ 2 เท่านั้น ดังนั้นมติ ครม. ดังกล่าว จึงไม่ทราบล่วงหน้า และไม่ทราบว่าออกมาได้อย่างไร” นายธนวัฒน์ กล่าว
ส่วนประชาชนที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวอาจรวมตัวคัดค้าน และยื่นเรื่องฟ้องศาลปกครองเชียงใหม่ เพื่อขอความคุ้มครองชั่วคราวนั้น เป็นสิทธิสามารถทำได้ ส่วนเทศบาล มีหน้าที่ประสานงาน และศึกษาข้อกฏหมาย เพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบสุขประชาชนเท่านั้น ไม่ได้มีผลประโยชน์แอบแฝงใด
Discussion about this post