เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 นายบัญชา โชติกำจร ผู้อำนวยการสำนักงานด้านความยั่งยืนและพัฒนาชุมชน จังหวัดน่าน เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมด้วย คุณภัสราสร พรหมโชติ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ นายศุภเกียรติ จันต๊ะยอด รักษาราชการแทนผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสบขุ่น นายปิติพงษ์ ธรรมลังกา ผู้ใหญ่บ้านสบขุ่น มูลนิธิวัฒนเสรี คณะครูและนักเรียนจากโรงเรียนบ้านสบขุ่น ระดับชั้นประถมศึกษา จำนวน 50 คน ร่วม Kick off โครงการค่ายผู้นำเยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือ ENVI camp For young talent : LESS is more l Carbon credit ภายใต้หลักสูตร Sustainable Leadership Development Program : SLDP ปั้นเยาวชนรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อรณรงค์ให้เยาวชนในสถานศึกษาได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและสร้างเครือข่ายผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมความตระหนักรู้ เรียนรู้เกี่ยวกับการป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่เกิดขึ้นในภาคเหนือ ณ โรงเรียนบ้านสบขุ่น อ.ท่าวังผา จ.น่าน
นายบัญชา โชติกำจร ผู้อำนวยการสำนักงานด้านความยั่งยืนฯ เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ ดำเนินงานด้านความยั่งยืนในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ปิง วัง ยม น่าน ที่สำคัญของประเทศไทย โดยส่งเสริมชุมชนในด้านอาชีพเกษตรกรรม ปลูกกาแฟเพื่อสร้างป่าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทดแทนการปลูกพืชเชิงเดี่ยวที่ทำให้เกิดการรุกป่า ภูเขาหัวโล้น และหมอกควันไฟป่าที่ก่อให้ปัญหาฝุ่นควันพิษ PM 2.5 อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เครือฯ เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาเยาวชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ ให้เข้ามามีบทบาทและขับเคลื่อนการปกป้องรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในถิ่นฐานบ้านเกิดตนเอง จึงจัด โครงการค่ายผู้นำเยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อม ภายใต้หลักสูตร Sustainable Leadership Development Program : SLDP ผ่านรูปแบบกิจกรรมค่าย ENVI CAMP for YOUTH “Less is More : Carbon Credit” เพื่อส่งเสริมการตระหนักรู้ความสำคัญของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรียนรู้เกี่ยวกับการป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 โดยบูรณาการณ์องค์ความรู้ระหว่างเครือซีพีและกรมป่าไม้ ผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ เรียนรู้คุณค่าของป่าไม้ วัดการเจริญเติบโตของต้นไม้ การกักเก็บคาร์บอนของต้นไม้ กิจกรรมเรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาและการแก้ปัญหา PM 2.5 และกิจกรรมออกแบบ “หมู่บ้านในฝัน”
ทางด้าน นายปิติพงษ์ ธรรมลังกา ผู้ใหญ่บ้านสบขุ่น กล่าวว่า ที่ผ่านมาชุมชนบ้านสบขุ่น ก็ให้ความสำคัญและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ อาทิ ปลูกป่า บวชป่า ปลูกป่าชุมชน นอกจากนี้ หลายปีที่ผ่านมา ชุมชนยังได้รับการสนับสนุนจากเครือซีพี ในการปลูกกาแฟสร้างป่า ทำให้ในปัจจุบันบริเวณโดยรอบชุมชนมีพื้นที่ป่าและพื้นที่สีเขียวเพิ่มมากขึ้น สำหรับค่ายกิจกรรมในครั้งนี้ รู้สึกดีใจและยินดีที่เครือซีพี เข้ามาให้ความรู้และปลูกฝังเด็กๆเยาวชนในหมู่บ้านของเราไม่ให้ตัดไม้ทำลายป่า อีกทั้งในแต่ละกิจกรรมยังให้ความรู้พร้อมปลูกฝังในแต่ละเรื่องไปเป็นสิ่งที่ดี ในบางกิจกรรมเด็กๆก็ได้รับความรู้ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นด้วย
ทั้งนี้ เครือซีพี ยังคงมุ่งมั่นร่วมมือกับทุกภาคส่วนเดินหน้าปลูกฝังเยาวชนภาคเหนือที่จะเป็นผู้ขับเคลื่อนประเทศในอนาคต ผ่านโครงการค่ายผู้นำเยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อม (SLDP) ให้เห็นความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และช่วยกันเป็นกระบอกเสียง เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟูป่า มีส่วนช่วยกันแก้ไขปัญหามลพิษต่างๆที่เกิดขึ้นในถิ่นฐานบ้านเกิดได้อย่างยั่งยืนต่อไป
Discussion about this post