วันนี้ 21 ตุลาคม 2566 ที่ลำน้ำมูล สวนเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินาถ 6 รอบ 12 สิงหคม 2547 อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ งานประเพณีแข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศมหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราชบรมนาถบพิตร ได้เริ่มเปิดการแข่งขันแล้วอย่างเป็นทางการ โดยมีนายพิจิตร บุญทัน ผุ้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดงาน มีนายรองรัตน์ จงอุตส่าห์ นายอำเภอท่าตูม ได้กล่าวรายงานการจัดงานประเพณีดังกล่าว
ซึ่งการจัดงานในปีนี้ถือว่าคึกคักและได้รับความสนใจ จากผู้คนมาเที่ยวชมการแข่งขันเป็นจำนวนมาก มาชมและเชียร์ ติดขอบฝั่งลำน้ำมูลทั้ง 2 ฝั่ง โดยปีนี้แบ่งประเภทการแข่งขันออกเป็นประเภทเรือยาวใหญ่ 55 ฝีพาย มีทีมส่งเข้าแข่งขันจำนวน 6 ลำ จากทั่วประเทศ ลงชิถ้วยพระราทาน และประเภทเรือยาวกลางทั่วไป 40 ฝีพาย จำนวน 12 ลำโดยปีนี้กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 21-22 ตุลาคม 2566 ซึ่งการแข่งขันแต่ละทีมต่างวัดกันแบบสุดใจเลยที่เดียว เพื่อคว้าชัยชนะ ทำเอาผู้ชมต่างต้องลุ้นกันแบบสุดใจ โดยเฉพาะที่ถือว่าเป็นสีสันและลีลาสุดมันส์ คือการพากย์เรือที่ดูเร้าใจทุกครั้ง ที่ปล่อยเรือออมา โดยปีนี้เป็นการประชันระหว่างรุ่นใหญ่อย่างทีมพาทย์จากปทุมธานี โดยป๋าขาวเมืองประทุมธานีกับทีมพาทย์คนรุ่นใหม่อย่าง นันทกานต์ พรมศรี หรือ น้องมิ้น จากทีมงาน 4 ยอดกุมาร
งานประเพณีแข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน จังหวัดสุรินทร์ ได้มีการจัดขึ้นในเดือน ตุลาคม ของทุกปี ปฏิบัติต่อกันมาเป็นระยะเวลากว่า 53 ปีมาแล้ว โดยจัดขึ้นที่ลำน้ำมูล อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งแต่ละปีทางอำเภอท่าตูม ก็จะร่วมกันกับเทศบาลตำบลท่าตูม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ และพ่อค้า ประชาชน ห้างร้าน ได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน และสนามลำน้ำมูล ที่อำเภอท่าตูม นับเป็นสนามแข่งขันที่สวยงามและเป็นหนึ่งในสนามแข่งของการแข่งขันเรือยาวระดับประเทศ
ซึ่งการจัดงานประเพณีแข่งขันเรือยาว ชิงถ้วยพระราชทาน จังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมฟื้นฟูวัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญาอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่และถ่ายทอดสู่อนุชนรุ่นหลังเพื่อส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม เพื่อสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดสุรินทร์ ด้านการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยว ประชาสัมพันธ์การจัดงานประเพณีแข่งขันเรือยาวให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์และสร้างสุขภาพที่แข็งแรงและส่งเสริมให้มีการออกำลังกายในชุมชนอีกด้วย.
วรกิตติ์ เครือศรี จ.สุรินทร์
Discussion about this post