นรข.เขตนครพนม สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจยึด ยาบ้า 435,800 เม็ด !!

วันที่ 22 ต.ค.66 ที่สถานีเรือธาตุ พนม ต.ธาตุพนมเหนือ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พล.ร.ต.นรินทร์ ขาวเจริญ ผบ.นรข. น.อ.วรรณะ เกื้อทิพย์ ผบ.นรข.เขตนครพนม นายจักรพงษ์ ปทุมไกยะ นายอำเภอธาตุพนม พ.ต.ท.เกษมสันต์ ราชโสภา สว.ส.รน.2 กก.10 บก.รน. พ.ต.ต.พัฒนา เสาวกุล ผบ.ร้อย ฉก.ตชด.ที่ 235 พ.ต.อ.เฉลิมชัย ไวยสุระสิงห์ ผกก.3บก.ปส.2 , ร.อ.อนุพงษ์ พรมส่วน ร้อย.ร.กกล. สุรศักดิ์มนตรี ร่วมแถลงว่า เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2566 น.อ.วรรณะ เกื้อทิพย์ ผบ.นรข. เขตนครพนม ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าจะมีการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ บ้านศรีนคร ต.แสนพัน อ.ธตุพนม จ.นครพนม ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ นรข.เขตนครพนม จึงแจ้งพล.ร.ต.นรินทร์ ขาวเจริญ ผบ.นรข. พร้อมกับสั่งการให้ น.ท.ไพโรจน์ แก้วพลอย หน.สน. เรือธาตุพนม จัดชุดปฏิบัติการข่าวของ สน.เรือธาตุพนม ติดตามความเคลื่อนไหว

น.ท.ไพโรจน์ แก้วพลอย หน.สน. เรือธาตุพนม ได้สั่งการให้ชุดชุ่มลงปฏิบัติงานพื้นที่ บ้านศรีนคร ต.แสนพัน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม จนชุดชุ่มตรวจพบผู้ต้องสงสัยเป็นชาย 1 คน แบกวัตถุต้องสงสัย อยู่ตรงข้ามห้วยห่างจากจุดซุ่มประมาณ 300 เมตร ห่างจากริมแม่น้ำโขงประมาณ 800 เมตร เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ถอนตัวจากจุดซุ่มติดตามชายต้องสงสัยคนดังกล่าวได้แบกวัตถุต้องสงสัย ไปยังริม ถ.ชยางกูร เมื่อวางวัตถุต้องสงสัยลง ได้มีรถกระบะ มาจอดบริเวณริมถนนตรงกับจุดที่ชายต้องสงสัยวางวัตถุต้องสงสัยไว้ และมีชาย 1 คน เดินลงมาจากรถเดินไปยังจุดที่วัตถุต้องสงสัยวางอยู่และชายต้องสงสัยทั้งสองก็ใด้แบกวัตถุที่วางอยู่จะเดินไปที่รถที่ติดเครื่องรออยู่ ชุดชุ่มจึงได้เข้าแสดงตัวว่าเป็น จนท. ขอเข้าตรวจสอบ เมื่อชายทั้งสองเห็นเจ้าหน้าที่ ก็ทิ้งวัตถุต้องสงสัยดังกล่าวทันทีและได้อาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไป ส่วนรถยนต์กระบะก็ได้บขับหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว เบื้องต้นพบวัตถุต้องสงสัยจำนวน 2 ห่อด้านนอกห่อด้วยถุงพลาสติก สีดำ พันด้วยเทปใส แกะด้านในพบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จากนั้นชุดปฏิบัติการข่าวฯ ได้ขอกำลังสนับสนุน จาก สน.เรือธาตุพนม นำวัตถุต้องสงสัยทั้งสองห่อ กลับมาตรวจสอบ ที่ สน.เรือธาตุพนม จากการตรวจสอบโดยละเอียด พบยาบ้าบรรจุถุงสีน้ำเงินนับได้ 435,800 เม็ด จึงได้ทำบันทึกตรวจยึดพร้อมกับนำของกลางทั้งหมด นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.หลักศิลา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายและสืบสวนหาผู้กระทำความผิดต่อไป.