หนุ่มใหญ่อุดรฯ เครียดเรื่องหนี้สินตัดสินใจผูกคอตายใต้ต้นมะม่วง !!

เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 22 ตุลา คม ร.ต.อ.นราศักดิ์ นนทะบุตร รองสว.สอบสวน สภ.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่า มีคนผูกคอเสียชีวิตที่ต้นไม้หลังบ้านเลขที่351 หมู่16 ตำบลบ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี จึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี,หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลบ้านตาด และมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม

ในที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายบัวไข ผ่องแผ้ว อายุ 57 ปี ได้ใช้ผ้าขาวม้ามัดเข้ากับกางเกงสีดำแล้วนำไปผูกเข้ากับกิ่งไม้ต้นมะม่วง ก่อนขึ้นไปเหยียบเก้าอี้พลาสติกสีขาว แล้วทำการผูกคอตัวเอง ทิ้งตัวลงมา ขณะนี้ญาติได้นำร่างมาไว้ที่พื้น ก่อนเจ้าหน้าที่มาถึง ใกล้ ๆ กันมีรองเท้าสีดำ 1 ข้าง และไม้เท้าคนพิการ อยู่ข้างต้นมะขาม โดยมีนางสังข์วาร ผ่องแผ้ว อายุ 54 ปี ภรรยาของตาย เป็นคนมาเจอร่างสามีห้อยโตงเตง ก่อนที่จะเรียกญาติและเพื่อนบ้าน มาช่วยนำร่างสามีลงมาแต่ก็หมดลมหายใจแล้ว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบ

จากการสอบสวนเบื้องต้น นางสังข์วารฯ ให้การว่า วันนี้ตนได้ตื่นนอนมาในเวลา 05.00 น.แล้วไปทำการนึ่งข้าวก็ไม่เห็นสามีอยู่ในบ้าน จึงได้ออกมาตามหา ก็เห็นสามีผูกคอตายที่ต้นมะม่วงถึงกับเข่าอ่อนทำอะไรไม่ถูกไม่คิดว่าสามีจะคิดสั้น ซึ่งเมื่อวานทั้งวันตนก็พูดคุยกับสามีปกติไม่ได้ทะเลาะหรือมีปากเสียงอะไรกันเลย สาเหตุที่สามีคิดสั้นคิดว่าเนื่องจากหนี้สินหลายอย่าง ภายในบ้านเท่านั้นเอง ซึ่งมีประมาณ4-5 แสนบาท คงจะกลุ้มใจเรื่องงวดรถยนต์กระบะ ที่ต้องผ่อนส่งเดือน 13,000 บาท หลังออกรถมาได้ 4 ปี ซึ่งก็เหลืออีก 2 ปีเท่านั้นเอง ก่อนหน้านี้สามีมีรถไถ เอาไปรับจ้างไถ แต่ก็ได้ขายไปแล้ว เนื่องจากสามีทำงานไม่ได้เพราะเป็นคนพิการรวมถึงอายุมากด้ายสุขภาพไม่แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน

น.ส.ธินาภรณ์ ผ่องแผ้ว อายุ33ปี ลูกสาวผู้ตาย ให้การว่า เรื่องงวดรถยนต์กระบะตอนนี้ตนเป็นคนรับผิดชอบให้พ่อ เนื่องจากตอนนี้พ่อทำงานรับจ้างไม่ได้เหมือนเดิมอีกทั้งขาพิการลีบด้านขวามาตั้งแต่เกิด ทำให้พ่อคิดมากในเรื่องหนี้สิน ก็มีหนี้ ธกส. ที่กู้มาไปปลูกมันสำปะหลัง จำนวน 3 แสนบาท หนี้งวดรถ และหนี้นอกระบบอีก3 หมื่นบาท ทำให้หาเงินส่งไม่ทัน จึงทำให้เครียดก็เลยมาคิดสั้นดังกล่าว

จากนั้นแพทย์ได้ร่วมกับตำรวจทำการชันสูตรพลิกศพ พบว่าผู้ตายเสียชีวิตเกิดจากขาดอากาศหายใจ ในการผูกคอตาย และเสียชีวิตมาได้ประมาณ 21 ชั่วโมง เมื่อเห็นว่าญาติไม่ติดใจในสาเหตุของการเสียชีวิต จึงได้มอบศพนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.